วันที่ 15 กันยายน 2566 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเรื่องเร่งด่วนที่ กทม.จะเสนอให้รัฐบาลช่วย ว่า เบื้องต้นได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีแจ้งนัดหมายเข้าพบอีกครั้ง โดย กทม.มีเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว (บีทีเอส) ที่ยังค้างอยู่ กำลังรอมติจากคณะกรรมการวิสามัญศึกษาระบบขนส่งมวลชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของ กทม. เรื่องปริมาณหนี้ต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการจราจร เนื่องจากกทม.ไม่มีอำนาจ ต้องอาศัยความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคมนาคมกรุงเทพมหานคร รวมถึงเรื่องฝุ่น PM2.5 ปัญหาที่ดินทำกิน หาบเร่แผงลอย หากรัฐเอื้อพื้นที่ได้ เช่น ใต้ทางด่วน จะทำให้คนมีที่ทำกินมากขึ้น ไม่เบียดเบียนที่สาธารณะ

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล (ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าจ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ไปจนถึงปี 2585) ยังไม่ได้เป็นคำสั่งศาล คงต้องมีขบวนการฟ้องร้องหรือไม่ฟ้องร้องกันไปอีกระยะหนึ่ง แต่บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) คงคิดในประเด็นที่ยังมีศาลปกครองซึ่งยังต้องต่อสู้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับ กทม. ส่วนของกทม.ได้ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดไปแล้ว ว่ามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ป.ป.ช. แต่ไม่ได้รับการพิจารณา ส่วนของเคทียังไม่ยื่นต่อศาล คงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในส่วนของเคที ต้องแยกเป็นคนละส่วนกัน หากมีความผิดจริงก็ว่าไปตามเนื้อผ้า แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายเอกชนด้วย เพราะมีการเดินรถจริง แต่อาจติดในขั้นกระบวนการ ต้องดูว่าทำให้กระบวนการถูกต้องได้อย่างไร คงต้องดูคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดออกมา