วันที่ 15 กันยายน  2566 ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายชัยธวัช ตุลาธน  รักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก.ก. กระบวนการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นอย่างไรต่อไป ว่า ในวันที่ 23 กันยายนนี้จะมีการประชุมวิสามัญ ซึ่งวาระสำคัญ คือการเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ 

เมื่อถามว่า มีการวางตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ไว้หรือยัง นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องรอผลสรุปในที่ประชุมวิสามัญพรรคก่อน ส่วนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่ 1 จะลาออกจากรองประธานสภา หรือถูกขับออกจากพรรคนั้น ความชัดเจนเรื่องนี้ต้องรอกรรมการบริหารพรรรคชุดใหม่ เมื่อได้ชุดใหม่แล้วก็คงจะมีการหารือกับนายปดิพัทธ์ แต่ตอนนี้พรรค ก.ก. คิดว่า การทำงานในรัฐสภาจะมีประสิทธิภาพได้นั้นเราก็ควรมีสถานะเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ และควรจะมีผู้นำฝ่ายค้านที่มาจากพรรคฝ่ายค้านหลัก เพราะตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็มีบทบาทสำคัญ เป็นหัวเรือใหญ่ที่กำหนดทิศทางของฝ่ายค้าน 

เมื่อถามว่า ยุทธศาสตร์ของพรรค ก.ก. คือมีทั้งตำแหน่งรองประธานสภาและผู้นำฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม หลังจากประชุมในวันที่ 23 กันยายน จะมีความชัดเจนในเรื่องต่างๆ มากขึ้น 

เมื่อถามว่า หลังจากนี้นายพิธาจะมีตำแหน่งอะไรในพรรค ก.ก. หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า รอให้มีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน หลังจากนั้นคงมีการจัดวางว่านายพิธาจะอยู่ในตำแหน่งอะไร อย่างไรก็ตาม นายพิธาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งและเป็นผู้นำของพรรคอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคก็ตาม ส่วนโอกาสที่นายพิธาจะได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น ตนคิดว่าทุกองคาพยพในพรรคยอมรับในความเป็นผู้นำของนายพิธาอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ทันทีที่นายพิธาพ้นข้อสงสัยเรื่องคดีหุ้นไอทีวี ก็พร้อมกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายธวัชกล่าวว่า “ก็เป็นไปได้ครับ”

เมื่อถามว่า หากในอนาคตศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายพิธาไม่มีความผิดในคดีถือหุ้นไอทีวีและคืนสิทธิ์การเป็นส.ส.ให้ เท่ากับว่านายพิธาจะไม่ได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านด้วยใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ต้องรอดู ตนคิดว่าผู้นำพรรคชุดใหม่ก็พร้อมเปิดทางให้นายพิธา กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคโดยสมบูรณ์อีกครั้ง แต่จะมีความชัดเจนอย่างไรนั้นต้องรอกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

เมื่อถามถึงสเปคของหัวหน้าพรรคคนใหม่ควรเป็นอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า รอที่ประชุมวิสามัญจะดีกว่า ส่วนจะมีโอกาสได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น ต้องดูผลที่ประชุมวิสามัญเนื่องจากมีความคิดเห็นที่หลากหลาย

เมื่อถามย้ำว่า หากที่ประชุมเห็นชอบ นายชัยธวัชพร้อมทำหน้าที่หัวหน้าพรรคหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า “เดี๋ยวค่อยว่ากัน ผมยังชอบเป็นเลขาธิการพรรคอยู่” 

เมื่อถามว่า การลาออกของนายพิธาหมายความว่าพรรค ก.ก. จะไม่ยอมเสียตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายธวัชกล่าวว่า เป็นข้อเสนอของนายพิธาเอง ที่คิดว่าพรรค ก.ก. ควรทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านควรมาจากพรรคหลักของฝ่ายค้าน จึงเป็นเหตุผลให้นายพิธาสละตำแหน่งหัวหน้าพรรค ณ ขณะนี้ ซึ่งกรรมการบริหารพรรคได้หารือกัน รวมถึงพูดคุยในที่ประชุมส.ส.แล้ว จนได้ข้อยุติ

เมื่อถามว่า อยากบอกอะไรกับผู้สนับสนุนพรรคถึงกรณีดังกล่าว นายธวัชกล่าวว่า เราเองก็เสียใจ แต่เป็นการตัดสินใจของนายพิธาเอง คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพรรคในขณะนี้ ก็ต้องนับถือการตัดสินใจของนายพิธา ซึ่งนายพิธาก็ยืนยันว่ายังไม่ได้หายไปไหน ยังทำหน้าที่เป็นผู้นำคนหนึ่งของพรรค ก.ก.​อยู่ ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องคดีหุ้นไอทีวีของนายพิธาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพียงแต่รอเวลาที่นายพิธาจะกลับมาทำหน้าที่ส.ส. อย่างสมบูรณ์

เมื่อถามว่า เป็นเกมบีบพรรค ก.ก. หรือไม่ นายธวัช กล่าวว่า ใช่ จริงๆ เรื่องนี้มีการตีความกันเยอะ แม้กระทั่งภายในพรรคเองก็ยังมีความเห็นว่า ยังสามารถเสนอชื่อนายพิธาเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าปัญหานี้ใครจะตีความ ซึ่งนายพิธาจึงตัดสินใจลาออกเพื่อให้เกิดความชัดเจนโดยไม่ต้องตีความกัน คิดว่าทุกคนเอาเป้าหมายส่วนรวมเป็นที่ตั้ง 

ทั้งนี้ นายชัยธวัช ยังกล่าวทิ้งท้ายหลังให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่เสียขวัญ” พร้อมกล่าวติดตลกว่า “รอเป็นนายกฯ ทีเดียว”