วันที่ 15 ก.ค.2566 นายราเมศ รัตนะเชวง  รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลว่า เป็นเรื่องภายในของพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความเห็นไปแล้วว่าผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯเป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคที่มี สส. มากที่สุด และเมื่อมีการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนายพิธา คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปก็จะต้องเป็นสส. เพราะจะได้ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านได้

ในส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 เชื่อว่าจะมีการลาออกในอีกไม่นานนี้ เพื่อให้พรรคก้าวไกลมีหัวหน้าพรรคที่มีหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ คือจะต้องไม่มีสมาชิกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฏร หรือรองประธาน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 ที่ได้กำหนดไว้ว่า ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นสส.และเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด และสมาชิกมิได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายราเมศ กล่าวต่อว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฏร คนที่ 1 ก็ยังมีคดีที่ได้กระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ฐานโฆษณา ม.43 ก็จะไปผูกโยงที่จะต้องถูกตรวจสอบในเรื่องจริยธรรมต่อไป แม้มีการลาออกจากตำแหน่งรองประธาน แต่คดีจริยธรรมก็ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ก็เป็นเรื่องของเสียงข้างมากฝ่ายรัฐบาลที่จะเลือกใครมาดำรงตำแหน่งในส่วนนี้