ถึงแม้จะย้ายลีกกลับไปอยู่ที่ "อิตาลี" แล้วก็ยังดังเปรี้ยงปร้างเหมือนเดิม "ปอล ป็อกบา" นักเตะชื่อดังของสโมสร "ยูเวนตุส" ยอดทีมในศึกกัลโช่ เซเรียอา หลังตกเป็นข่าวดัง อาจถูกแบนยาวหลายปี
"สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส" ถูกตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะใช้ "ยาโด๊ป" ในการแข่งขันฟุตบอลกัลโช่ เซเรียอา ในเกมที่เอาชนะ "อูดิเนเซ่" 3-0 เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66 ที่ผ่านมา
โดยในเกมดังกล่าว ถึงแม้ว่า "ป็อกบา" มีชื่อเป็นตัวสำรองแต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนามก็ตาม เจ้าตัวยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดนจับสุ่มตรวจโด๊ป และล่าสุดมีรายงานว่าผลการตรวจดังกล่าวพบสาร "เทสโทสเตอโรน" หรือฮอร์โมนเพศชาย ในร่างกายอยู่ในระดับสูงเกินกว่ากำหนด
"เทสโทสเตอโรน" เป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยในการฟื้นตัวจากการออกกำลังกายได้เร็วขึ้น มียาหลายชนิดที่มีส่วนผสมของเทสโทสเตอโรนอยู่ และยังพบได้ในรูปแบบของการฉีดและเจลอีกด้วย
แม้ว่า ทีมงานตรวจสารกระตุ้นจะทำการทดสอบอีกรอบเพื่อยืนยัน แต่ผลที่ออกมายังคงเป็นบวก และตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรับทราบแล้ว
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมถึงสโมสรยูเวนตุส และบรรดาฝ่ายบริหารองค์กรต่างๆ กำลังเร่งรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป หลังจากผลตรวจซ้ำยังออกมาเป็นบวก โดยคาดว่าจะรู้ผลประมาณ 7 วัน
ทั้งนี้ สื่อในอิตาลี รายงานว่า ป็อกบา โดนสั่งห้ามลงสนามชั่วคราว เพื่อรอยืนยันผลการตรวจที่ชัดเจน และถ้าหากนักเตะผิดจริงมีสิทธิ์ถูกแบนยาว 2-4 ปีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม "ยาแก้อักเสบ" ที่ขายตามร้านขายยาทั่วไป มักมีสารเทสโทสเตอโรนเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าตัวนั้นจะเป็นแค่ครีมหรือเจลนวดก็ตาม
ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ บรรดานักเตะ มักทำผิดพลาด จากการซื้อยามาใช้เอง โดยที่ไม่ผ่านการปรึกษาจากทีมแพทย์สโมสร ทำให้เข้าข่ายละเมิดกฎกัลโช เซเรีย อา มาตรา 2.1 และมาตรา 2.2 นั่นคือ การมีสารกระตุ้นต้องห้าม และการใช้หรือพยายามใช้สารกระตุ้นต้องห้าม
ต่อมา "ราฟาเอล่า พิเมนต้า" เอเยนต์ของ ป็อกบา กล่าวว่า "นักเตะในความดูแลของเธอไม่มีความตั้งใจที่จะฝ่าฝืนกฎแต่อย่างใด"
"เรากำลังรอการวิเคราะห์ และเราไม่สามารถพูดอะไรได้จนกว่าจะถึงตอนนั้น สิ่งที่แน่นอนก็คือ ป็อกบา ไม่มีวันอยากที่จะแหกกฎด้วยตัวเอง" เอเยนต์ส่วนตัว กล่าว
ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับ "ป็อกบา" ที่อุตส่าห์ต่อสู้กับปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้ว จนกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในซีซั่นนี้ และเพิ่งจะมีโอกาสลงสนามให้ทีมแค่ 32 นาทีในซีซั่นนี้เท่านั้น
สำหรับ "ปอล ป็อกบา" เกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 1993 ที่ ลาญี-ซูร์-มาร์น ประเทศฝรั่งเศส เป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวชาวกินี เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก
เริ่มต้นเส้นทางสายลูกหนัง ในปี 1999 ตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ โดยเขาได้เข้าร่วมทีม รัวซี-อ็อง-บรี สโมสรในฝรั่งเศส ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเกิด โดย ปอล เล่นให้ต้นสังกัดแรกอยู่ 7 ปี ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพ ตอร์ซี่ ในปี 2006 ซึ่งเขาได้ถูกเลือกให้เป็นกัปตันทีมชุดอายุไม่เกิน 13 ปีของสโมสร และ 1 ปีให้หลัง ป็อกบา ในวัย 14 ปี จึงได้ย้ายไปร่วมทีม เลอ อาฟวร์ เป็นที่ที่เขาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 2 ปี ที่สโมสรแห่งนี้ จนไปเข้าตาทีมดังหลายทีมในยุโรป
ในเดือนตุลาคม 2009 ป็อกบา ได้ย้ายร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โดยได้ลงเล่นให้กับทีมชุด U18 เป็นเกมแรก ในวันที่ 10 ตุลาคม 2009 ในแมตช์ที่ ปีศาจแดง เอาชนะ ครูว์ อเล็กซานดรา 2-1 ซึ่งในซีซั่นแรกที่อังกฤษ เขาได้ลงสนามไป 21 นัด โดยยิงไป 7 ประตู
ต่อมา ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2011 ป็อกบา ได้เป็นหนึ่งในสี่ดาวรุ่ง ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยเขามีรายชื่อในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 5 กับ คราวลีย์ ทาวน์ ซึ่ง ปอล ได้รับเสื้อหมายเลข 42 อย่างไรก็ตาม ดาวเตะเลือดน้ำหอม ยังคงเล่นในทีม U18 ก่อนที่จะพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2010/11 ร่วมกับเพื่อนซี้อย่าง เจสซี่ ลินการ์ด
กระทั่ง เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2012 เขาได้โอกาสลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก ให้กับ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก ในฐานะตัวสำรอง โดยลงเล่นแทนที่ของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หรือ ชิชาริโต้ ในนาที 72 ในเกมที่พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-0 ทว่าสุดท้ายในฤดูกาลดังกล่าว ป็อกบา ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปเพียง 7 เกมเท่านั้น โดยแบ่งเป็นพรีเมียร์ลีก 3 นัด, ลีก คัพ 3 นัด และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 นัด
ด้วยโอกาสลงสนามที่ไม่มากนักในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำให้ ป็อกบา ในวัย 19 ปี เลือกเดินออกจากโรงละครแห่งความฝัน หลังจากที่เขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีม แล้วก็เป็น "ม้าลาย" ยูเวนตุส ยอดทีมแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ที่ได้แข้งดาวรุ่งอนาคตไกล ไปร่วมทัพแบบฟรีๆ ในเดือนกรกฎาคม 2012 โดยเซ็นสัญญายาว 4 ปี
จนถึงเดือนธันวาคม 2018 เฮดโค้ชชาวโปรตุกีส ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังพาทีมทำผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ก่อนที่ทีมจะแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามารับหน้าที่แทน โดยเรื่องดังกล่าว น่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ ป็อกบา กลับมาเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุข ซึ่งนั่นทำให้เขากลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในสีเสื้อของ ปีศาจแดง ก่อนจะมาแผ่วปลายในช่วงท้ายซีซั่น
ในศึก ยูโร 2016 ที่พวกเขารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ป็อกบาและฝรั่งเศส สามารถผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยไปพบกับ โปรตุเกส เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2016 ก่อนที่สุดท้ายแล้ว พวกเขาจะอกหักได้เพียงรองแชมป์ หลังพ่ายในช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-1