ทวี สอดส่อง รมว.ยธ. สั่งการ DSI ส่องโครงการประมูลทั่วประเทศ หากมีพฤติการณ์ฮั้วทุจริต จะต้องรื้อระบบอิทธิพล ส่งถ่วงดุลอำนาจตำรวจ ขณะที่ 'ทักษิณ' นอนพัก รพ.ตำรวจ หากเกิน 30 วันเป็นอำนาจแพทย์ตำรวจ-ราชทัณฑ์ ย้ำฟื้นฟูหลักนิติธรรม
วันที่ 14 ก.ย.66 ภายหลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าทำงานวันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงยุติธรรม ศาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ศาลตายาย และพระพุทธยุติธรรมโลกนาถ เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอย่างเป็นทางการ โดยมีนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางอรัญญา ทองน้ำตะโก รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้บริหารส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีในการดำรงตำแหน่งใหม่ รวมถึงในช่วงเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหารือร่วมกับอธิบดีกรมต่างๆและตัวแทนกรม เพื่อรับทราบนโยบายแผนงานที่จะดำเนินการหลังจากนี้ในห้วงระยะเวลา 100 วัน หรือ 3 เดือน เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมจึงได้ลงมาจากชั้น 10 และดำเนินการแถลงนโยบาย พร้อมตอบข้อซักถามกับสื่อมวลชน
ต่อมาเวลา 15.30 น. พ.ต.อ.ทวี รมว.ยธ. กล่าวว่า จากการประชุมหารือกับอธิบดีกรมต่างๆ และตัวแทนหน่วยงานในสังกัด ก็ได้มีการพูดถึงการนำนโยบายของรัฐบาลไปสานต่อให้สอดคล้องกับงานของกระทรวง และจะมุ่งสร้างหลักนิติธรรมให้เกิดขึ้น เพราะการฟื้นฟูหลักนิติธรรมคือเรื่องใหญ่ รวมถึงปัญหาเรื่องยาเสพติด ปัญหาเรื่องหนี้สินของลูกหนี้บุคคลธรรมดา การมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน ก็จะต้องฟื้นฟูให้หมด รวมถึงหนี้ครัวเรือนด้วย โดยมอบหมายให้ทุกกรมได้ไประดมความคิด อีกทั้งยังมีแผนการดำเนินงานใน 100 วันแรก เพื่อความยุติธรรมของประชาชน เพื่อที่ในช่วง 3 เดือนแรกจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ซึ่งทุกหน่วยงานก็ได้มีการเสนอแนะ และจะต้องลงไปดูอย่างจริงจัง และที่สำคัญกระทรวงยุติธรรมมีเครื่องมือที่จะปกป้องคุ้มครองประชาชน เราจะทำให้ระบบความยุติธรรมอยู่เหนืออิทธิพลให้ได้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า กฎหมายบริหารยุติธรรม กรมสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้มีการพาผู้นำองค์กรต่างๆมาพูดคุยกัน เพื่อประสานเชื่อมต่อข้อมูลกัน และดูปัญหาเรื่องอาชญากรรมที่มีผลต่อประชาชนเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายดีแค่ไหนแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มาประชุมร่วมกัน ติดตามความคืบหน้าระหว่างกัน ก็ไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ทัน ดังนั้น จึงต้องเร่งสร้างงานกระบวนการยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่น อย่างดีเอสไอจะเข้าไปถ่วงดุลและสนับสนุนหน่วยงานในท้องที่ จะไม่ปล่อยให้องค์กรหนึ่งองค์กรใดสร้างความหดหู่ ความไม่เป็นธรรมต่อประชาชน เราจะทำกฎหมายเป็นใหญ่
สำหรับนโยบายสำคัญของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรมจะให้คนด้อยโอกาส คนที่ไม่มีปากเสียงได้มีการยอมรับเรื่องสัญชาติ เพราะเป็นบุคคลที่ต้องการสัญชาติไทย เกิดที่เมืองไทย ต้องได้รับการพิสูจน์การยอมรับตาม พ.ร.บ.สัญชาติฯ ซึ่งมีกว่า 1 ล้านคนที่ยังไม่ได้สัญชาติ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความลำบากมาก เนื่องจากจะต้องไปเรียนหนังสือ ที่ผ่านมาตนได้รับทราบจากอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ และ ผอ.นิติวิทย์ ว่ามีการเข้าไปช่วย แต่ช่วยได้เพียงหลักพันถึงหลักหมื่นคนต่อปี คนที่ไม่มีสถานะในบัตรประชาชน มีเกือบล้านคน ดังนั้น จะต้องมีแนวทางเสนอเข้ามาว่าจะทำอย่างไรกันบ้าง
ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ในรอบ 50 ปี เราได้มีประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นกฎหมายที่ยกระดับการแก้ปัญหายาเสพติดได้มาก ซึ่งถ้าเราแก้ไขตามกฎหมายนี้ได้ทั้งหมด ที่มีทั้งเรื่องการป้องกันและปราบปราม การฟื้นฟู และการติดตามยึดอายัดทรัพย์สิน โดยเฉพาะผู้ค้ายาเสพติดที่อยู่เบื้องหลัง เราจะดำเนินการไปในส่วนของเรื่องการเงินด้วย อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูรักษาผู้ใช้ยาเสพติด ก็ต้องทำให้ได้ที่ว่า ผู้เสพคือผู้ป่วย อีกทั้งในขณะนี้จำนวนผู้เสพยาเสพติดที่อยู่ในการควบคุมของกรมคุมประพฤติมี 200,000 คน แต่ที่อยู่นอกการคุมประพฤติตามข้อมูลพบกว่าล้านคน ซึ่งจะต้องหาวิธีแก้ปัญหาไม่ให้ยาเสพติดเป็นความเดือดร้อนต่อประชาชนคนอื่นๆ
เมื่อถามว่าจะมีการแก้ปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลอย่างไรบ้าง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการเงิน เป็นการทุจริตคอรัปชั่นประเภทหนึ่ง ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างจะมีกรมบัญชีกลางที่ดูแลตรงนี้ และเราคงจะจับมือกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้ดำเนินการจริงจัง อาจจะต้องใช้มาตรการทางภาษีและเรื่องการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และหากมีความสงสัยว่ามีการฮั้วประมูลหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่ราคาที่ประมูลโครงการได้ไปมักจะมีราคาที่ใกล้เคียงกับราคากลาง และเป็นการประมูลที่ได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งหลังจากนี้ปลัดกระทรวงยุติธรรมจะต้องเข้าไปดูเพื่อให้เกิดความชัดเจน เกิดผลอย่างจริงจัง เพื่อคอยสนับสนุนค้ำยันและทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ทำผิดก็ต้องได้รับผิด ซึ่งจะไม่ทำเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครปฐมแต่จะต้องทำทั้งหมด ตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลที่ได้มีการจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมให้เข้มแข็ง หลักนิติธรรมจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือของข้าราชการภายในกระทรวงยุติธรรมทั้งหมด ให้ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม และประชาชนจะยอมรับคนที่ทำงานความตรงไปตรงมาเอง
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า สำหรับการฮั้วประมูลของกำนันนกนั้น ข้าราชการ (ดีเอสไอ) ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ปลักกระทรวงยุติธรรมคงเข้าไปดูแล และจะต้องทำให้สังคมเห็นถึงความตรงไปตรงมา อย่าถือเพียงแค่เป็นการเสียชีวิตของตำรวจ หรือจบที่เรื่องกำนันนก แต่ให้ขยายการตรวจสอบไปทั่วประเทศ จะต้องป้องกัน การคอรัปชั่นจากการฮั้วประมูล ซึ่งถ้าทำได้ งบประมาณของประเทศจะถูกใช้ไปกับประชาชน ซึ่งดีเอสไอจะทำเรื่องนี้ให้ครบ หากภายหลังพบว่าใครอื่นมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบเช่นเดียวกัน
เมื่อถามถึงเรื่องการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีกรอบครบกำหนดการรักษาตัว จำนวน 30 วัน รมว.ยธ. มีแนวทางอย่างไรบ้าง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 มีการแก้ไข ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวเพื่อเป็นการยกระดับกรมราชทัณฑ์ให้สอดคล้องกับหลักสหประชาชาติและมาตรฐานการควบคุมตัวผู้ต้องขัง จะต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ โดยจะไม่มีใครอยู่นอกเหนือระเบียบดังกล่าว และขณะนี้ยังเป็นขั้นตอนของทางกรมราชทัณฑ์ ซึ่งภายในที่ประชุมวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดถึงในประเด็นดังกล่าว แต่ตามหลักการการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำนั้น เป็นอำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยถ้าหากมีการนอนพักรักษาตัวนานเกินกว่า 30 วันจะต้องมีการขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเอกสารหลักฐานของแพทย์มาประกอบ แต่หลักสำคัญจะต้องเป็นเรื่องความเห็นของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนถ้าหากมีการรักษานานเกินกว่า 60 วันจะเป็นการขอความเห็นชอบจากปลัดกระทรวงยุติธรรม และถ้าหากเกินกว่า 120 วันจะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบกฎกระทรวง ทั้งนี้ หลักการสำคัญคือจะต้องควบคุมไม่ให้ผู้ต้องขังหลบหนีและไม่ให้ไปก่อเหตุร้าย
ต่อข้อถามว่าในกรณีของนายทักษิณ จะได้มีการพิจารณาเรื่องการพักการลงโทษหรือไม่ เพราะหากเข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษจริง จะต้องมีการส่งไม้ต่อจากกรมราชทัณฑ์ไปยังกรมคุมประพฤติ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตามที่เรียนแจ้งไปว่าจะต้องอยู่ในหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นหลักสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือการที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้มีอำนาจ ซึ่งจะต้องทำตามกฏหมายจะทำตามอำเภอใจไม่ได้.