วันที่ 14 ก.ย. 66 ที่กระทรวงพม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่องการใช้ข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานชาติ ระหว่าง 10 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงกลาโหม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และสํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ร่วมลงนาม MOU และนางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวรายงาน

นายวราวุธ กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "การพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ" ว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่องการใช้ข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานชาติ ระหว่าง 10 หน่วยงาน เป็นความร่วมมือในการนําเข้าข้อมูลในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการพัฒนา เด็กปฐมวัยตามมาตรฐานชาติให้ครบถ้วนสมบูรณ์และปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากการบูรณาการฐานข้อมูลด้านเด็กปฐมวัย เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการบริหาร การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีความปลอดภัย รวมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม สามารถสนับสนุนการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยของประเทศร่วมกันได้ ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการสมวัยทุกมิติทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม และมีความพร้อม เข้าสู่ระบบการศึกษาในระดับประถมศึกษา นอกจากนี้ เป็นการบูรณาการข้อมูลผ่านระบบเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การใช้ข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานชาติ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละหน่วยงาน โดยคํานึงถึงการคุ้มครองสิทธิข้อมูลรายบุคคลของหน่วยงานร่วมกัน

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับขอบเขตความร่วมมือครั้งนี้ หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานกํากับดูแลสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทั้งในส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น มีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน ประสานงาน กํากับ ดูแลให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย นําเข้าข้อมูลในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานชาติ (ระบบประเมินออนไลน์) ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

โดยระบบฐานข้อมูลดังกล่าว เป็นระบบที่นําเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการติดตามประเมินผลการดําเนินงานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ซึ่งมีการนําเข้าข้อมูลในระบบ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 สําหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทั่วประเทศ ประมาณ 50,000 กว่าแห่ง

ส่วนที่ 2 สําหรับเจ้าหน้าที่ต้นสังกัดในจังหวัด ผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กปฐมวัย และผู้กํากับ ดูแล ติดตามการนําเข้าข้อมูลในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานชาติ จํานวน 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานสามารถร่วมใช้ประโยชน์ฐานข้อมูลดังกล่าวได้ ด้วยการนําข้อมูลไปประกอบการจัดทํานโยบาย วิชาการ รวมถึงคําของบประมาณของหน่วยงาน เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริม และสนับสนุนการยกระดับคุณภาพตามาตรฐานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันหลายหน่วยงานมีภารกิจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกันในการพัฒนาเด็กเล็ก อายุ 0 - 6 ปี ซึ่งวันนี้ได้รับเกียรติจาก 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กทม. และทุกกระทรวง มาลงนามร่วมกันในการร่วมกันใช้ฐานข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานมี ทั้งนี้ ในบริบทการพัฒนาเด็กเล็กนั้น ไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่า เป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งการลงนามความร่วมมือครั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีการนำข้อมูลของแต่ละหน่วยงานมาแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นแนวทางการสร้างมาตรฐานดูแลเด็กเล็ก รวมทั้งเรื่องบุคลากรและสถานที่ เพื่อเด็กเล็กของประเทศไทย เติบโตอย่างมีคุณภาพ ถือว่าเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งฐานข้อมูลที่มีความร่วมมือกันจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกหลานของคนไทยในอนาคต