หอการค้าฯ หนุนมาตรการ "ครม.เศรษฐา" นัดแรกลดค่าครองชีพ-ต้นทุนทันทีตามข้อเสนอเร่งด่วนของภาคเอกชน เชื่อ GDP ปีนี้เติบโตแตะ 3%

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทย ได้มีการหารือและประเมินถึงมาตรการที่ ครม.มีมติออกมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และหอการค้าไทยต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้มีมติช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการทันที ในการประชุม ครม.ครั้งแรก ตามข้อเสนอเร่งด่วนของภาคเอกชน

สำหรับมาตรการที่ออกมาหอการค้าไทยได้ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากมาตรการลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาลจะช่วยให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการลดราคาน้ำมันดีเซล ระยะเวลาเกือบ 4 เดือน ที่จะใช้เม็ดเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากรวม 2 มาตรการดังกล่าวจะทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆของประชาชนได้ 3 หมื่นล้านบาท ในส่วนนี้จะช่วยเสริมให้ GDP ในปีนี้ให้เพิ่มขึ้นราว 0.2-0.3% ส่วนมาตรการวีซาฟรีชั่วคราว สำหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศจีนและคาซัคสถาน ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66-29 ก.พ.67 ประเมินว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ ประมาณ 1 ล้านคน (โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจะมีการใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 5 หมื่นบาท/คน/ทริป) ซึ่งจะช่วยให้เกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมทันที โดยกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศเพิ่มเติมอีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ในส่วนนี้ช่วยเพิ่มการเติบโตของ GDP ได้อีกราว 0.4-0.5% ประกอบกับมาตรการพักหนี้เกษตรกร-ธุรกิจขนาดเล็ก 3 ปี ที่จะช่วยลดภาระให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่กำลังฟื้นตัว ทำให้สร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยปลายปีที่จะคึกคักมากขึ้น

ทั้งนี้จากตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจก่อน ครม.เศรษฐา เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลายฝ่ายประเมินว่า GDP จะเติบโตได้เพียง 2.5-3% นั้น วันนี้จากชุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนที่ ครม.มีมติออกมา หอการค้าฯ ประเมินว่าน่าจะทำให้เสริม GDP เพิ่มขึ้นได้อย่างน้อย 0.6-0.8% และมั่นใจว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ถึง 3% อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทย ยังได้สะท้อนให้มีการเร่งใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่ยังค้างท่อในปีงบประมาณนี้ที่ยังรอการเบิกจ่ายให้รวดเร็ว เพื่อช่วยเสริมการเติบโตเศรษฐกิจในโค้งสุดท้ายของปี

ส่วนประเด็นนโยบายการขึ้นค่าแรง ทางคณะกรรมการหอการค้าฯ เห็นด้วยกับการยกระดับค่าแรงเพื่อให้คุณภาพชีวิตแรงงานดีขึ้นโดยควรเพิ่มประสิทธิภาพของแรงงานควบคู่ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ได้มีการหารือร่วมกับ รมว.แรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มาพบกับหอการค้าไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาถึงข้อห่วงใยของภาคเอกชนที่จำเป็นต้องมีการปรึกษาหารือร่วมกับคณะกรรมการไตรภาคีในการกำหนดค่าแรงที่เหมาะสม และเห็นว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่ควรขึ้นเท่ากันทั่วประเทศ