ตรงเป้า! เอกชนชี้รัฐบาลลดราคาน้ำมัน-ค่าไฟ กระตุ้น ศก.-ลดค่าครองชีพ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้ปรับลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันดีเซล โดยค่าไฟฟ้าลดเหลือ 4.10 บาท จาก 4.45 บาท เริ่มรอบบิลเดือนกันยายนนี้ และลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 2.50 บาทจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลคงเหลือ 30 บาทต่อลิตร เริ่มได้ตั้ง 20 กันยายนถึงสิ้นปี 31 ธ.ค.66 นั้น โดยการปรับลดทั้ง 2 รายการดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือลดค่าครองชีพให้กับประชาชนทุกกลุ่มรวมถึงภาคเอกชน เพราะจะทำให้ภาพรวมของราคาสินค้าและบริการในด้านต่างๆไม่ปรับสูงขึ้น แต่ก็ต้องไปดูว่าเมื่อต้นทุนลดลงมาได้แล้วจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคปรับลดลงตามได้มากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้คาดว่า การลดค่าไฟฟ้าและน้ำมันดีเซลเป็นระยะเวลาเกือบ 4 เดือนในครั้งนี้ น่าจะทำให้รัฐบาลใช้เม็ดเงินชดเชยไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท แยกเป็นค่าไฟฟ้าเกือบ 15,000 ล้านบาท และค่าน้ำมันดีเซลอีก 15,000 ล้านบาท โดยจะส่งผลให้กระตุกเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เพิ่มขึ้น .1% ของจีดีพี จะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้ 3-3.5 % ของจีดีพีและยังไม่ได้รวมกับนโยบายด้านฟรีวีซ่าภาคการท่องเที่ยวน่าจะยิ่งทำให้โอกาสที่เศรษฐกิจไทยเติบโตได้มากกว่า 3.5% เป็นไปได้มากด้วยเช่นกัน
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)กล่าวว่า มติการปรับลดค่าครองชีพดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรีนั้น เห็นว่ารัฐบาลดำเนินการมาถูกทางแล้ว เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยเฉพาะมีการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตไม่สูงขึ้น จะทำให้ภาคเอกชนสามารถแข่งขันการค้ากับหลายๆประเทศต่อไปได้ ดังนั้นต้องขอขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ที่กล้าตัดสินใจที่จะหาทางกระตุ้นภาคธุรกิจและลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และเห็นว่าหากแนวทางดังกล่าวในช่วงที่ใช้ไปจนถึงสิ้นปีนี้แล้ว หากประเมินออกมาเห็นว่าเป็นแนวทางที่ดีก็อยากให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปอีกด้วยเช่นกัน