เผยต้องศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจแนวทางต่อจากนี้ รวมทั้งต้องรอคกก.วิสามัญสภากทม.สรุปมติ ส่งมหาดไทยอีกครั้ง ไม่ตอบกระแสข่าวเข้าพบนายกฯเพื่อหารือประเด็นรถไฟฟ้าเย็นนี้
วันที่ 13 ก.ย.66 จากกรณีองค์คณะไต่สวนชุดใหญ่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ,157,83 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ผู้ถูกกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข้าราชการและผู้บริหารระดับสูง รวมถึงบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(มหาชน) หรือ BTSC และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด รวม 13 ราย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวมติ ป.ป.ช. ตนยังไม่แน่ใจในรายละเอียดเนื้อหา ซึ่งเข้าใจว่ายังไม่ได้มีการเปิดเผยเนื้อหาอะไร ก็ได้ให้ฝ่ายเกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียด ต้องดูให้รอบครอบ และในเรื่องนี้ยังอยู่ในชั้นคณะกรรมการวิสามัญฯ ของสภากรุงเทพมหานครที่ยังไม่มีข้อสรุปออกมา ก็จะไปดูว่าเรื่องนี้จะมีผลกับการตัดสินใจของเราในอนาคตอย่างไร ในส่วนกระบวนการของ ป.ป.ช.ก็ยังยุติ เป็นเพียงการชี้มูลซึ่งต้องมีกระบวนการฟ้องต่อไป จากชื่อ 13 ท่านตามรายงานผู้ถูกกล่าวหา ไม่มีข้าราชการกรุงเทพมหานครที่ยังทำงานอยู่ เป็นเรื่องนานมากเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนในแง่ของสัญญาไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรโดยตรง เพราะเรื่องยังไม่ได้เป็นที่ยุติ ป.ป.ช.ก็ยังไม่ได้มีการฟ้อง คงต้องรอให้เข้าสู่กระบวนการถ้าชี้มูลแล้วคงต้องไปฟ้องศาลต่อไป
ส่วนจะได้มีการพูดคุยกับทางรัฐบาลในเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้เมื่อไรนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า “คงจะดูในกรอบภาพรวมก่อน ยังมีเรื่องที่เราต้องตอบกลับส่งคืนให้มหาดไทยที่ถามมา ซึ่งต้องรอมติคณะกรรมาการวิสามัญฯ ก่อนจึงจะรีบตอบไปยังมหาดไทย แต่เรื่องนี้ก็ยังค้างอยู่ที่ ครม. ยังไม่ได้ยุติ ยังมีเรื่องที่ให้ ครม. ตัดสินใจ กรณี ม.44 ด้วย ก็รอรัฐบาลใหม่ว่าจะนำเรื่องเข้า ครม.เมื่อไร”
อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวว่านายชัชชาติจะเดินทางไปเข้าพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้เพื่อหารือประเด็นดังกล่าวด้วยนั้น นายชัชชาติไม่ตอบยืนยันว่าจะไปพบจริงหรือไม่ พูดเพียงว่าให้ท่านพูดเองละกัน เพราะข่าวมาจากท่าน