"เศรษฐา" ลุกสวน "ก้าวไกล" หดหู่! หลังเจอคำอภิปรายด้อยค่ารัฐบาล-กองทัพ ย้ำต้องพัฒนาร่วมกัน พร้อมเผยแนวทางแก้ปมเครื่องยนต์เรือดำน้ำ บอเตรียมเจรจาเยอรมัน  ขอเวลาหน่อยโตๆกันแล้ว ด้าน“โรม” ประท้วงอย่าเสียดสีก้าวไกล

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2566  ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ต่อมาเวลา  19.35 น.  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงต่อประเด็นที่ถูกนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกลต่อการวางกรอบนโยบายด้านการทหาร และความมั่นคง ว่า ตนได้ฟังการอภิปรายของ สส.พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คนก่อนหน้านี้ รู้สึกหดหู่ เพราะมีการด้อยค่าภาคส่วนต่างๆ รวมถึงนักการเมืองด้วยกัน ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน หน่วยงานรัฐมีทั้งคนดีและไม่ดี ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. เป็นจุดเริ่มต้นช่วยแก้ไข สะสางปัญหา  เรื่องที่ไม่เข้าใจกัน ช่องว่างที่มีระหว่างกัน สำหรับประเด็นที่ยกมาอภิปรายเรื่องทหาร ตนยืนยันว่าภายใต้การนำของตนจะใช้คำว่าพัฒนากองทัพ เชื่อว่าความหมายใกล้เคียงกัน ผลลัพท์แตกต่างกันบ้างตามกาลที่เปลี่ยนไป และขีดจำกัดในการทำงานและผลลัพท์ที่ออกมาให้เห็นสังคมเดินหน้าลดความขัดแย้ง

“สำหรับวาทกรรมที่ด้อยค่าในสภา ที่พูดไป เห็นหน้ายิ้ม หัวเราะเยาะกับตัวอย่าง อาจจะจริงหรือต้องการพิสูจน์ทราบ ผมเข้าใจวิธีการนำเสนอ อย่างไรก็ดีขณะนี้เป็นบรรยากาศทำงานร่วมกัน การเจรจาพัฒนาสถาบันทหารที่ควบคู่กับการมีชีวิตที่ดีขึ้นกับประชาชน จะลำบากขึ้น ผมฐานะผู้นำรัฐบาลเป็นห่วงจริงๆ แต่ผมบังคับในวาทกรรมด้อยค่าไม่ได้ แต่การพัฒนากองทัพต้องให้เกียรติกองทัพและภาคการเมืองที่จะมีเวลาทำงานร่วมกัน” นายเศรษฐา ชี้แจง

นายเศรษฐา ชี้แจงด้วยว่าสำหรับนโยบาย เกณฑ์ทหารสมัครใจ จะค่อยๆลดหลั่น แต่หลักการคือประชาชนชายไทยมีสิทธิเลือกประกอบอาชีพอย่างสมศักดิ์ศรี โดยธำรงไว้ความมั่นคงของสถาบันทหาร เมื่อต้องการการปกป้องอธิปไตยของสังคมไทย ทั้งนี้จากการพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพเบื้องต้นแม้ยังไม่ได้เข้าไปบริหาร แต่คุยแบบผู้ใหญ่ที่อยกาเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ทหารพร้อมดูแลประชาชนในวิกฤตและภัยพิบัติต่างๆ  ขณะที่การลดขั้นตอนดูแลจัดซื้ออาวุธ พูดคุยกันว่าเท่าที่จำเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจเปราะบาง และรัฐบาลต้องการงบจัดสรรไปสู่ภาคสส่วนอื่นที่จำเป็นมากกกว่า 

“ขอเวลาหน่อยวันนี้เพิ่งเข้ามา โตๆ กันแล้วเป็นผู้ใหญ่เข้าใจ ตระหนักดี” นายเศรษฐา กล่าว

ทำให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วง ว่า “ขอนายกฯ อย่าใช้ข้อความเสียดสีกัน หากรู้สึกว่าตนเองถูกเสียดสี สิ่งแรกที่ทำคือ อย่าเสียดสีพวกเรา” ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา วินิจฉัยให้นายกฯชี้แจงต่อไป

นายเศรษฐา ชี้แจงถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำที่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ ว่า สัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปยูเอ็นจีเอ ที่นิวยอร์ก ให้ กระทรวงการต่างประเทศ นัดประธานาธิบดีเยอรมัน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง เพื่อพยายามเจรจาให้ปัญหาดังกล่าวจบลง

“ผมยืนยันว่าประเทศเราต้องการความสามัคคีเห็นหัวใจซึ่งกันและกัน มีคนดีไม่ดี แต่ปัญหาต้องแก้ไขแบบบูรณาการ พูดจาด้วยความเข้าใจ มีเป้าหมายและไทม์ไลน์ที่ชัดเจน เมื่อบริหารจัดการแล้วจะแถลงร่วมกันระหว่างทหารและรัฐบาล  ส่วนการทุจริตที่สงสัย เมื่อมีหลักฐานจะตรวจสอบและนำเสนอต่อไป” นายเศรษฐา กล่าว