ชาวบ้าน อ.นางรอง  จ.บุรีรัมย์ ร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หลังนำบัตร ปชช.ไปรูดซื้อของใช้ในครัวเรือนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการประจำ   แต่ระบบกลับแจ้งบัตรนี้ถูกใช้ไปแล้ว  เชื่อถูกสวมสิทธิ์รีบแจ้งธนาคารอายัดบัตร  พบโผล่อีกหลายคน  ด้านร้านค้าเผยอาจเกิดจากระบบขัดข้องผู้ถือบัตรตัวจริงยังสามารถมารับสินค้าได้ตามวงเงิน เพราะทางร้านมีหลักฐานทั้งชื่อและใบเสร็จ  

 

(12 ก.ย.66)  น.ส.บุษยาณี   คนชุม อายุ 44 ปี  ชาวบ้านโคกพลวง ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  ได้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ   หลังจากนำบัตรประชาชนที่ใช้แทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ที่ได้รับจากโครงการของรัฐเดือนละ 300 บาท  ไปใช้บริการรูดซื้อสินค้าประเภทของใช้ในครัวเรือนยังร้านที่เข้าร่วมโครงการ แห่งหนึ่งในตำบลหนองโบสถ์ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา   แต่ทางร้านกลับแจ้งว่าบัตรดังกล่าวถูกใช้ไปแล้ว  ก่อนที่ตนเองจะไปใช้สิทธิ์ไม่นาน  จึงเชื่อว่าน่าจะมีการสวมสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของตนเอง   จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย   

  โดย น.ส.บุษยาณี   บอกว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 2 ก.ย.66  ตนได้นำบัตรประชาชนซึ่งใช้แทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้บริการรูดซื้อสินค้าประเภทของใช้ในครัวเรือนตามปกติ ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในตำบลหนองโบสถ์ ซึ่งเป็นสาขาที่ใช้บริการเป็นประจำ  แต่พอเลือกสินค้าเสร็จนำบัตรไปยื่นให้พนักงานเพื่อคีย์เข้าระบบชำระสินค้า  แต่ระบบกลับแจ้งขึ้นว่า บัตรนี้ถูกใช้สิทธิ์ไปแล้ว  ตนก็ตกใจว่าจะถูกใช้สิทธิ์ไปได้ยังไง ในเมื่อตนพึ่งมาใช้ และเมื่อใช้สิทธิ์ไม่ได้จึงเดินกลับบ้าน  แล้วโทรศัพท์ไปสอบถามกับทาง Call Center ธนาคารกรุงไทย เพื่อเช็คสิทธิ์ทางพนักงานก็แจ้งกลับมาว่า บัตรของตนถูกใช้สิทธิ์ ไปช่วงเวลา 08:49 น. ที่ร้านอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่บ้านยาง ตำบลบ้านยาง อ.เมือง บุรีรัมย์  ทั้งที่ตนไม่เคยไปร้านค้าดังกล่าวเลย 

  จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนสวมสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของตนเอง  จึงได้เดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อขออายัดบัตรไว้ก่อน  ซึ่งขณะที่ตนไปแจ้งเรื่องอายัดบัตรที่ธนาคารกรุงไทย  ก็มีชาวบ้านอีกหลายคนมาแจ้งว่าถูกสวมสิทธิ์แบบเดียวกันกับของตนด้วย   จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหากมีการสวมสิทธิ์จริง  ก็ให้ดำเนินการเอาผิดกับบุคคลดังกล่าว และหาวิธีป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก   เพราะทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิ์ตัวจริงต้องเสียโอกาส   เพราะเดือนละ 300 บาท ก็สามารถแบ่งเบาภาระได้โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

  จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการที่ สาขาหนองโบสถ์ ที่ผู้ร้องไปใช้สิทธิ์  เพื่อสอบถามกับทางร้าน โดย น.ส.ฉัตราพร พยัคฆา  ผู้จัดการร้านสาขาหนองโบสถ์  ก็ให้ข้อมูลว่า  ช่วงก่อนหน้านี้ธนาคารได้แจ้งกับทางร้านว่า  ระบบของธนาคารขัดข้องเงินในโครงการอาจจะล่าช้า  ส่วนกรณีที่ลูกค้ารายดังกล่าวมาใช้บริการรูดซื้อสินค้าในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ   แต่ระบบแจ้งว่าถูกใช้สิทธิ์ไปแล้วนั้น  อาจเกิดจากระบบผิดพลาดหรือขัดแข้งมากกว่า   ไม่น่าจะเป็นการสวมสิทธิ์เพราะเวลาที่ลูกค้ามาใช้สิทธิ์ต้องนำบัตรประชาชนตัวจริง และมีรหัส 6 หลักแจ้งพนักงานทุกครั้ง   

 

ส่วนที่ลูกค้าบอกว่าโทรสอบถามทางกรุงไทยแล้วแจ้งว่าสิทธิ์ถูกใช้ที่ร้านค้าในตำบลบ้านยางนั้น เนื่องจากสาขาหนองโบสถ์  เป็นสาขาเดียวกับบ้านยาง  ซึ่งเป็นสาขาต้นทาง เป็นสาขาที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์  ส่วนที่อื่นเป็นสาขาย่อย  เป็นไปได้ที่ระบบจะแจ้งขึ้นข้อมูลสาขาบ้านยาง  ก็ขอประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าทราบว่าแม้ระบบจะแจ้งแบบนั้น  แต่ก็ลูกค้าตัวจริงที่มีบัตรก็สามารถมาใช้สิทธิ์ได้  เพราะทางร้านจะมีชื่อและใบเสร็จเป็นหลักฐานอยู่แล้ว  เชื่อว่าน่าจะเกิดจากระบบขัดข้องมากกว่า