-ส.อ.ท.คัดค้านนโยบายขึ้นค่าแรง 400 บาท หลังนายกฯประกาศกลางรัฐสภาจะขึ้นเร็วที่สุด แนะรอเศรษฐกิจฟื้นตัวก่อน ชี้ต้นทุนการจ้างเพิ่มขึ้น 30% อาจนำไปสู่การเลิกกิจการและเลิกจ้าง เตรียมจัดทำข้อเสนอ (Position Paper) ยื่นให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในเร็วนี้ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 

-ส่งออกวูบ กดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯเดือนส.ค.มาที่ 91.3 ปรับตัวลดลง จาก 92.3 ในเดือนก.ค.66 ต่ำสุดรอบ 1 ปี เสนอรัฐตรึงดอกเบี้ย-ลดค่าไฟ

-บีโอไอเผยผลสำเร็จการจัดงาน SUBCON EEC 2023 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.66 ณ จังหวัดชลบุรี ยอดจับคู่ทางธุรกิจจำนวน 848 คู่ มูลค่ากว่า 7,300 ล้านบาท ยกระดับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน

-ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเครื่องกำกับตลาดหุ้น ทั้งกระบวนการครั้งใหญ่ ทยอยคลอดเกณฑ์ใหม่ ปี 2567 เริ่มขึ้นเครื่องหมาย C บริษัทรายได้น้อย-ขาดทุนติดต่อกันหลายปี-ผิดนัดชำระหนี้ เล็งใช้มาตรการเพิกถอน บจ.ฟรีโฟลตต่ำนาน

-ตลท.เป็นเจ้าภาพการประชุม ASEAN Exchanges CEOs Meeting ครั้งที่ 36 โดยตลาดหลักทรัพย์อาเซียนทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย ร่วมกำหนดตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติในระดับสากล รวมถึงหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือด้าน ESG ในภูมิภาคเพิ่มเติม เพื่อยกระดับตลาดหลักทรัพย์อาเซียนและการลงทุนที่ยั่งยืน เ

-บริษัท บางจากฯ แจ้งเตือนเพจปลอม เพจ Bangchak Station ไม่ใช่เพจของบริษัท บางจากฯ โปรดอย่ากดติดตามหรือกดไลค์

-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ฉลองครบรอบ 70 ปี มอบโปรโมชันสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เอาใจคนอยากมีบ้าน กับ "สินเชื่อบ้าน 70 ปี ธอส." กรอบวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อ

-อธิบดีกรมการจัดหางานเตือนภัยมิจฉาชีพอ้างชื่อบริษัทจัดหางานถูกกฎหมาย สร้างเพจรับสมัครคนทำงานเรือสำราญต่างประเทศ หลอกขอข้อมูลส่วนบุคคล ย้ำกรมฯเอาผิดตามพรบ.จัดหางานฯ มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ

-เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.62/63 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.56 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.52 - 35.63 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ทั้งนี้ ต้องติดตามว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งล่าสุด มีการยกเลิกการจัดซื้อ-ขายบ้านในเมืองใหญ่ เพื่อกระตุ้นตลาดในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น อย่างไรก็ดี วันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก โดยตลาดรอติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯคืนวันพรุ่งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.50 - 35.75 บาท/ดอลลาร์

-สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง(ทองคำ 96.5%) ในประเทศเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.24 น. ราคาไม่เปลี่ยนแปลง โดยทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 32,250 บาท ขายออก 32,350 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่บาทละ 31,669.24 บาท ขายออก 32,850 บาท ขณะที่ราคาทองคำโลก (Gold Spot) อยู่ที่ระดับ 1,922.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

-SET ปิดวันนี้(12 ก.ย.)ที่ 1,545.50 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด (+0.30%) มูลค่าซื้อขาย 40,984.43 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ ระหว่างวันบวกขึ้นมาได้จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่เรื่องอื่นเข้ามาหนุนดัชนี แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งออกด้านข้าง รอติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐ รวมทั้งจับตานโยบายรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี ให้แนวต้าน 1,550-1,555 จุด และแนวรับ 1,540 จุด