วันที่ 1 ก.ย.2566 เวลา 10.10 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาแถลงนโยบายของรัฐบาล และครม.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และครม.ต่อรัฐสภาต่อเนื่องวันที่สอง โดยเริ่มจากนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปไตยใหม่ อภิปรายเป็นคนแรกอยากให้มีการปฏิรูปการศึกษา
จากนั้นนายวีระศักดิ์ ภูครองหิน สว. อภิปรายว่า ขอให้รัฐบาลปรับกรอบเวลาการแก้ปัญหายาเสพติดจากที่กำหนดไว้ในระยะกลาง และระยะยาว เป็นกรอบระยะสั้น เพื่อให้ทำได้ทันที โดยเฉพาะการกำหนดนิยาม ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ต้องทำความเข้าใจที่ชัดเจน ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระดับนโยบาย ปัจจุบันมีคณะกรรมการดำเนินการทั้งส่วนกลางและพื้นที่ ซึ่งองค์กรที่สำคัญและมีบทบาทมาก คือคณะกรรมการหมู่บ้านที่จะช่วยคัดกรองผู้เสพว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ผู้ที่เสพ และได้รับการบำบัดแล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ร่วมสังคมได้ ไม่เป็นปัญหาสังคม
ต่อมาเวลา 09.35 น. นายเศรษฐา ลุกชี้แจงทันที ว่า ตนขอขอบคุณที่เสนอแนะให้วางกรอบการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นกรอบระยะสั้น ซึ่งวันที่ 16 ก.ย.นี้ ตนจะประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการงานร่วมกัน พร้อมกับวางแผนในระยะสั้น ถึงระยะยาว จากนั้นจะแถลงให้ประชาชนทราบอีกครั้ง รัฐบาลตระหนักถึงปัญหายาเสพติด และจากการลงพื้นที่พบว่าปัญหายาเสพติดเป็นประเด็นที่ประชาชนเรียกร้องอย่างมาก ไม่ด้อยไปกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ปัญหาปากท้อง ดังนั้นรัฐบาลต้องจัดการแน่นอน ทั้งเรื่องผู้เสพคือผู้ป่วย รวมถึงหากรักษาหายแล้วจะทำอย่างไร ไม่ให้กลับมาเสพอีก เพื่อส่งคืนสู่ครอบครัวอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่กลับมาเสพอีก
นายเศรษฐา กล่าวว่า สำหรับการบริหารจัดการผู้ทำผิด รวมถึงการยึดทรัพย์ยังเป็นปัญหา รัฐบาลตระหนักและมองว่าต้องยึดทรัพย์โดยเร็ว รวมถึงการทำลายยาเสพติดที่หากทำช้าจะมีการลักลอบออกไป ดังนั้นต้องเร่งจัดทำแผนงานระยะสั้น เพื่อให้สถาบันครอบครัวของประเทศกลับมาแข็งแกร่ง