"รัฐสภา" เปิดอภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก ราบรื่น ใช้เวลารวม 16 ชม. ช่วงดึก "2รมว." ลุกแจง ตั้งเป้าใช้กม.เด็ดขาดปราบจีนเทา -"ธรรมนัส"รับข้อเสนอด้านเกษตร ขอ "นายกฯ" ช่วยแก้หนี้ ธ.ก.ส.ให้เกษตรกรเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ในภาพรวมของวันแรก เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่า ได้ใช้เวลารวมไปทั้งสิ้น 16 ชั่วโมง โดยบรรยากาศทั้งวันแรกนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น แม้จะมีประเด็นที่ฝ่ายค้าน โดย พรรคก้าวไกล ที่ถูกทักท้วงถึงการเอ่ยถึงชื่อบุคคลภายนอก หรือ การนำภาพครม. มาใช้ประกอบการอภิปราย ที่ไม่เหมาะสม หรือไม่สมควร แต่ไม่พบกการประท้วงที่รุนแรงทำให้การอภิปรายต้องหยุดชะงัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมเพื่ออภิปรายนโยบายรัฐบาลในช่วงกลางดึก นั้นพบว่า มีการอภิปรายของ สมาชิกรัฐสภา สลับขึ้นอภิปราย ขณะที่รัฐมนตรีได้สลับสับเปลี่ยนลุกขึ้นชี้แจง อาทิ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่ชี้แจงว่าจะรับข้อเสนอของสมาชิกรัฐสภาไปพิจารณาส่วนปัญหาที่ถูกอภิปรายในนโยบายด้านการท่องเที่ยวนั้นยอมรับว่าบางส่วนยังมีปัญหาข้อกฎหมาย ต้องใช้เวลาแก้ไขด้วยความรอบคอบ โดยหลังจากที่รัฐบาลเข้ามาทำงานแล้วการแกัปัญหาจะทำอย่างเป็นระบบ และควบคู่ไปกับการสร้างรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
น.ส.สุดาวรรณ ยังชี้แจงต่อกรณีการให้ฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ถูกมองว่าจะเปิดช่องให้ธุรกิจสีเทาเติบโต ว่า ธุรกิจสีเทาและธุรกิจที่ผิดกฎหมายทุกประเภทเป็นเรื่องที่ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนกว่า 2.23 ล้านคนที่เข้ามาตั้งแต่ต้นปีสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท จึงไม่ควรที่จะกล่าวรวมว่าทั้งหมดนั้นเข้ามาทำธุรกิจแย่งคนไทยหรือทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายไปเสียทั้งหมด แต่หากพบว่ามีการกระทำผิดเราต้องใช้กฎหมายในการดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงยอมรับในปัญหาของภาคเกษตรกร และขอรับข้อเสนอแนะของสมาชิกรัฐสภาไปเป็นแนวทางการบริหรและกำหนดนโยบายเพื่อประโยชน์ของเกษตรกร ขณะที่ประเด็นหนี้สินเกษตรกร จากการลงพื้นที่ทราบถึงความต้องการในการเร่งแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับธนาคาร
เพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเชื่อว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลังได้รับทราบข้อมูลแล้วจะนำไปหาแนวทางแก้ไขต่อไป