"สส.-สว." แนะรัฐบาลสร้างความเท่าเทียมการศึกษา หนุนเงินกองทุนเพื่อความเท่าเทียม-เทคโนโลยี ชี้ยั่งยืนและใช้เงินน้อยกว่า แจกเงินดิจิทัล10เท่า  สว. ถาม มท. นโยบายปราบผู้อิทธิพล ห่วง "กำนันนก" ไม่ปลอดภัยจนถึงวันขึ้นศาล จี้ถามแผนปราบผู้มีอิทธิพล


วันที่ 11 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.การคลังและครม. ต่อรัฐสภ ผู้สื่อข่าวรายงานการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาวันแรก บรรยากาศภาพรวมในช่วงเช้าสมาชิกรัฐสภา ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึง สว. เน้นการเสนอแนะแนวทางเพื่อให้ปรับปรุงการทำงานในนโยบายด้านต่างๆ  และมีการตั้งคำถามถึงที่มาของแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการเงินดิจิตอล 1 หมื่นบาท และเงินพักหนี้เกษตรกรจะนำมากจากที่ไหน
โดยนายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สว. อภิปรายว่า ขอให้รัฐบาลเร่งสนับสนุนงบประมาณในกองทุน เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ให้เยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษากว่า 4 ล้านคนได้รับโอกาส ซึ่งการลงทุนในงบประมาณดังกล่าว ตนมองว่าน้อยกว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทกว่า 10 เท่า ซึ่งการขับเคลื่อนการให้โอกาสทางการศึกษาจะทำให้เกิดความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำที่ยั่งยืน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายว่า ขอสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งแก้รัฐธรรมนูญโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) รวมถึงนโยบายเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และขอให้ขับเคลื่อนการดำเนินนงานของรัฐบาลสำเร็จ คือ การฟื้นเศรษฐิจด้วยดิจิทัล  ไม่เฉพาะการทำบล็อกเชนเท่านั้น แต่ต้องให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีสูงสุด ขณะเดียวกันต้องสร้างความพร้อมในด้านทักษะของคนไทยในวิชาชีพต่างๆ ที่สอดคล้องกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในด้านเศรษฐกิจ ขณะเดียวกกันต้องสนับสนุนการสร้างโอกาสให้คนที่ตกงาน  สำหรับนโยบายด้านการศึกษา ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการตามกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ที่กำหนดให้ตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่กำหนดให้ดำเนินการด้วยการระดมทุนจากธุรกิจสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยี โดยปัจจุบันผ่านมา 24  ปี ไม่พบว่ามีรัฐบาลใดดำเนินการ ซึ่งตนขอเรียกร้องเพื่อให้เกิดโอกาสของการเข้าถึงเทคโนโลยีกับนักเรียนเท่าเทียมกับบางประเทศที่เจริญแล้ว


ด้านนายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ สว. อภิปรายว่า จากกรณีของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" กำนันตำบลตาก้อง จ.นครปฐม ที่เป็นผู้ต้องหาสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวง กลางงานเลี้ยง ทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คือ ตำรวจ มีส่วนสนับสนุน แต่อย่าเพิ่งโยนบาปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ควรรับฟังข้อมูลทุกภาคส่วน จึงอยากเรียนถามว่าที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย มอบหมายให้ รมช.มท. ที่มาจากพรรคการเมืองเดียวกันเร่งดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลนั้น จะทำอย่างไร ขึ้นบัญชีอยางไร รวมถึงมีขั้นตอน ตนขอคำตอบในคำถามดังกล่าวให้ชื่นใจ


"ผมกังวลต่อความปลอดภัยในชีวิตของกำนันนกว่าจะอยู่จนถึงวันขึ้นศาลหรือไม่ หรือจะถูกทำในสิ่งที่ไม่ควร  ดังนั้นในกระบวนยุติธรรมต้องยึดนิติรัฐ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ  การปราบปรามบ่อน ซ่อง ผู้มีอิทธิพลต่างๆ รัฐบาลจะทำให้ได้ในช่วงเวลาใดที่เหมาะสม" นายประสิทธิ์ กล่าว