กรณี แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในพื้นที่อีกิล (Ighil) ของภูเขาไฮแอตลาส ประเทศโมร็อกโก ช่วงกลางดึกของวันที่ 8 ก.ย.66( ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งตรงกับเช้าวันที่ 9 ก.ย.66 (ตามเวลาประเทศไทย) ระบุความรุนแรงขนาด 7.2 ริกเตอร์ ด้านสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้ไว้ที่ 6.8 และระบุว่าแผ่นดินไหวเกิดในระดับค่อนข้างตื้น คือ 18.5 กิโลเมตร (11.5 ไมล์) ใต้ผิวดิน ส่งผลให้มรผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ จำนวนมาก สร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านต่างๆ นับร้อยแห่ง ขณะที่ผู้รอดชีวิตต้องอาศัยหลับนอนในพื้นที่กลางแจ้งบนเทือกเขาไฮแอตลาส  โดยเป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบกว่า 6 ทศวรรษ 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.ย.66 กระทรวงมหาดไทยโมร็อกโก ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 2,012 ศพ บาดเจ็บ 2,059 ราย ในจำนวนนี้ 1,404 ราย อาการสาหัส โดยจังหวัดอัล ฮาอูซ มีผู้เสียชีวิตสูงสุด รองลงมาคือ จังหวัดทารูดันท์ แม้จะมีผู้เสียชีวิตน้อยกว่ามากในมาร์ราเกช แต่พื้นที่เมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก กลับได้รับความเสียหายจำนวนมาก หอคอยสุเหร่า บริเวณจัตุรัสเจมา อัล-ฟานา ในย่านใจกลางเมืองได้รับความเสียหาย เและคาดกันว่าบ้านเรือนที่สร้างด้วยอิฐโคลน หิน และไม้ ในหมู่บ้านหลายแห่งบนพื้นที่ภูเขาได้พังทลายลง แต่ขนาดของความเสียหายในพื้นที่ห่างไกลอาจต้องใช้เวลาในการประเมิน

ขณะที่ สำนักพระราชวังโมร็อกโก กล่าวว่า โมร็อกโกประกาศการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน โดยในระหว่างนั้นจะมีการเชิญธงชาติลงครึ่งหนึ่ง กองทัพโมร็อกโกจะจัดทีมกู้ภัยเพื่อจัดหาน้ำดื่มสะอาด อาหาร เต็นท์ และผ้าห่มให้แก่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

ส่วนทางด้าน สหประชาชาติ ระบุว่า พร้อมที่จะช่วยเหลือรัฐบาลโมร็อกโก เช่นเดียวกับหลายประเทศ ที่รวมถึงสเปน ฝรั่งเศส และอิสราเอล โดยตุรกี ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 50,000 ศพ เป็นหนึ่งในประเทศที่เสนอที่จะให้การช่วยเหลือ ส่วนแอลจีเรีย ซึ่งตัดสัมพันธ์กับโมร็อกโกในปี 2564 หลังจากความขัดแย้งในเขตซาฮาราตะวันตก กล่าวว่า แอลจีเรียจะเปิดน่านฟ้าสำหรับเที่ยวบินด้านมนุษยธรรมและการแพทย์


 

#โมร็อกโก #แผ่นดินไหว #ธรณีพิโรธ