นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66  ตอน "มองทะลุ" โดยระบุว่า ภายในเดือนกันยายนนี้ จะมีรัฐมนตรีอย่างน้อย 3 คนอาจถูกคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยื่นคำร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากมีข้อกล่าวหาอันน่าสงสัยในการกระทำผิดกฎหมายจากกรรมเก่าและเกิดร่องรอยการประพฤติมั่วหมองขึ้นใหม่ผสมกันร้ายแรงชนิดคาดไม่ถึง

"รัฐมนตรีไม่น้อยกว่า 3 คนมีข่าวแว่วมาว่า คงได้เข้ากระทรวงทำงานอย่างน้อย 15 วัน หลังจากนั้นเมื่อกระบวนการทางกฎหมายเดินหน้าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คาดในเดือนกันยายนนี้จะเป็นผลขึ้น ซึ่งเจ้าตัวคงรู้ตัวดีอยู่แล้ว โดยข้อกล่าวหาบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่คนจะคาดไม่ถึง”
นายจตุพร อ้างว่า ข่าวที่ตนนำมาบอกกล่าวนั้น ขณะนี้มีสถานะเป็นเพียงข่าวแว่วมาเท่านั้น โดยระบุถึงช่วงเวลาว่า ในอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะมีรัฐมนตรีในชุดรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ อย่างน้อย 3 คนจะถูกเรื่องราวในสิ่งสำคัญ เพราะมีเรื่องราวงที่เป็นร่องรอยเดิมและใหม่เข้ามาผสมอีกอย่างที่คาดไม่ถึง และหลังจากนั้นไม่กี่วันจะถูกยื่นให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ 

อีกทั้ง เตือนว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้เดินไปอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้น อะไรที่รัฐบาลควรทำทันทีก็ต้องรีบทำ อีกอย่างรัฐมนตรีอย่าเพิ่งแต่งห้องให้มาก โดยรัฐมนตรีบางคนก็รู้ เพียงแต่คิดว่าจะรอดหรือไม่ แต่บ้านเมืองนี้อะไรก็เกิดขึ้่นมาได้ ขอให้โชคดี หากมีการวิ่งเต้นอาจรอดก็ได้ ดังนั้น ข่าวแว่วที่ได้ยินมาคงคลาดเคลื่อนไปอีก แต่นำมาให้ประชาชนเฝ้าจับตาไว้ก่อน

"ขอให้ประชาชนมีมาตรฐานไตร่ตรอง เมื่อนักการเมืองโสโครกแล้ว ประชาขชนก็ไม่ควรโสโครกตาม มาตรฐานที่เคยจัดการบ้านเมืองนี้อย่างไร เราก็ควรเดินตามอย่างนั้น”

นายจตุพร กล่าวถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาทว่า รัฐบาลนายเศรษฐา อยู่ในช่วงการสับสนวิธีการการแจกและที่มาของเงินจะเอาแบบไหน อย่างไรก็ตาม เมื่อเพื่อไทยบอกศึกษามาอย่างดี ก็ควรทำตามสิ่งที่ประกาศจะแจกผ่านบล็อกเชน โดยไม่ควรเปลี่ยนแปลงไม่แจกผ่านแอปเป๋าตัง สิ่งสำคัญของให้รัฐบาลมุ่งมั่น และไม่ต้องถอยไปสู่แนวทางอื่นให้ยุ่งยากอีก

ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน