“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*…

มิติใหม่สำหรับการเมืองไทย  ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ที่ ศรพระราม เป็นนักข่าวมานานหลายปีดีดัก ไม่เคยเห็นปรากฎการณ์ ที่ สมาชิกวุฒสภามีความตื่นตัวประกาศท่าทีกันคึกคักที่จะอภิปรายนโยบายรัฐบาลขนาดนี้  ตั้งประเด็นเตรียมตรวจสอบทั้งเงินดิจิทัลหมื่นบาท และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ …*…

ว่าเป็นบาป ที่เคยๆเห็นมาไม่ใช่ สว.ชุดนี้เท่านั้น ก็จะมีการอภิปรายแนะนำ เสริมเติม ไม่ได้อยู่ในโทนของการตั้งป้อม ตรวจสอบ หรือรุมถล่ม ในสไตล์ที่แยกไม่ออกจากฝ่ายค้านเช่นนี้มาก่อน ทำให้ พรรคก้าวไกลนั้นดูซอฟต์ลงไปในทันที …*…

มันทำให้มีการจับตาว่า เป็น “ควันหลง” หลังอะไรๆ ไม่ได้ดั่งใจของพรรคการเมือง บางพรรค ในพรรคร่วมรัฐบาลในการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี…*…

ในขณะที่ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ยังมีไพ่ในมือคือการตั้ง ครม.ไม่ครบ 36 คน ยังเหลือ 2 ที่นั่ง ที่มีอำนาจต่อรองในมือ เพราะหากจำกันได้ท่าทีของสว.บางกลุ่มในฝั่ง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยส่งสัญญาณถล่ม “เศรษฐา” ในการโหวตเลือกนายกฯ ส่งผลให้ พรรคพลังประชารัฐ ถูกตัดหรือริบโควตา รมต.มาแล้ว หลังจากนี้จะส่งผลอย่างไรจากนี้ น่าลุ้นจริงๆ …*…

 แต่ถึงยังไงประโยชน์ ก็ตกอยู่ที่ประชาชนนี่แหละ ที่ สว.ไม่ใช่สภาตรายาง จะมีตัวช่วยในการกลั่นกรอง นโยบายต่างๆ แม้ในการแถลงนโยบายนี้ จะไม่มีผลอะไรที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 60 ไม่ได้กำหนดให้ต้อง “ลงมติ” ความไว้วางใจ แต่ข้อสังเกต และข้อท้วงติงต่างๆ จะช่วยชี้นำและกดดันให้รัฐบาลนำไปปรับไปจูนให้นโยบายออกมด ช่วยลดความเสี่ยง หรือจุดอ่อนลง เพราะเงินที่นำมาใช้ แม้จะยังไม่ชัดเจนเรื่องที่มา ก็คือ “เงินภาษีของประชาชน” …*…

ส่วนดรามา กรณี “หมิว” สิริลภัส กองตระการ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ออกมาโวยว่าถูก สส.รายหนึ่งแอบถ่ายรูปขณะห่อข้าวกล่องสภา ที่เหลือกลับไปกินที่บ้าน เรื่องนี้ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคเพื่อไทย ออกมาชี้แจงว่าเป็นเรื่องไม่ผิด หลังจากเลิกประชุมแล้ว สส. จะเอาอาหารกลับบ้านได้  และตอนนี้เรามีห้องส่วนตัวของ สส. อาจจะมีผู้ติดตาม ผู้ช่วย สส.มาช่วยทำงาน ถ้าจะเอาอาหารไปที่ห้องให้ สส. ก็สามารถนำไปได้ เพราะก็กินกันอยู่แล้ว และถ้าปิดประชุมก่อน สมมุติปิดประชุมกะทันหัน อาหารเหลือเยอะ ปกติจะเอาไปบริจาคตามหน่วยงานต่างๆ แต่บริจาคเท่าไหร่ก็เหลือเน่า เพราะรับประทานไม่ทัน ไม่มีที่เก็บ จึงคิดว่าไม่มีกฎหมายห้ามรับประทานในสภาหรือเอากลับบ้าน …*…

เรื่องนำอาหารกลับไปกินบ้านก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ช่วยดูแลทรัพยากร รักษ์โลกอีกต่างหาก  ซึ่ง“หมิว” ก็ทำไปตามสิทธิของเธอเอง แต่ที่ ศรพระราม ฝากให้คิดบางช่วงบางตอนที่เธอไปโพสต์ชี้แจงในโซเชียลไปแซะว่าหาก สส.มาประชุมและอยู่จนปิดประชุมมากพอ ก็ไม่มีอาหารเหลือ อันนี้ ก็ต้องฝากกลับไปถามพรรคก้าวไกลของเธอเองด้วย เพราะในวันที่ สภาล่มนั้น สส.พรรคก้าวไกลมี 149 คน แต่แสดงตนแค่ 4 คน …*…

ยังไง ปรากฏการณ์  “หมิวห่อข้าวกลับบ้าน” นั้น มันสะท้อนถึงความไม่ง่าย ในการทำงานของ สส.ใหม่จากพรรคก้าวไกล  ที่ก่อนหน้านี้อยู่นอกสภาฯ อาจจะฝีปากกล้าคอยจับผิด จับโป๊ะคนอื่น วันนี้ ใส่สูทเข้ามาทำงานในสภาฯ บอกเลยว่ากรรมยุคดิจิทัลมันเร็วกว่า 5 จี ยังต้องเจออะไรอีกเยอะ!! ...*...

ที่มา:ศรพระราม (8/9/66)