วันที่ 8 ก.ย.66 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า...

ผลการทดลองจากหลายห้องปฏิบัติได้ออกมายืนยันตรงกันว่าโอมิครอน BA.2.86 ซึ่งมีการกลายพันธุ์บริเวณส่วนหนามต่างไปจากอัลฟา (B1.1), โอมิครอน BA.2, XBB.1.5, และ EG.5.1 (XBB.1.9.2.5.1) จำนวน 54, 32, 28, และ 28 ตำแหน่งตามลำดับ ส่งผลให้โอมิครอน BA.2.86 สามารถหลบเลี่ยง

ภูมิคุ้มจากผู้ที่เคยรับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อโอมิครอน XBB มาก่อนได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับโอมิครอน EG.5.1 ที่กำลังระบาดเป็นสายพันธุ์หลักอยู่ในขณะนี้

ภูมิคุ้มกันจากผู้ที่เคยรับวัคซีนมาก่อนแต่ก็ยังมีการติดเชื้อโอมิครอน XBB ซ้ำ (breakthrough infection) พบว่าความสามารถเข้าจับและยับยั้งโอมิครอน BA.2.86 ในหลอดทดลองไม่ดีนักและพบว่าโอมิครอน BA.2.86 มีความสามารถในการต่อต้านภูมิคุ้มกันสูงกว่าโอมิครอน EG.5.1 อย่างมีนัยสำคัญถึง 1.6 เท่า

มีข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกให้ยกระดับการเฝ้าจับตาโอมิครอน BA.2.86 ห่างๆ (various under monitoring: VUM) มาเป็นการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด (variant of interest: VOI) เพราะพบว่าโอมิครอน BA.2.86 สามารถหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันสูงได้สูงสุดในบรรดาโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้