วันที่ 7 ก.ย.2566 ที่บ้านพักย่านเกษตร-นวมินทร์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เดินทางเข้าพบในวันนี้ว่า ต้องรอเจอกัน ถึงจะรู้ว่าจะพูดคุยกันเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องหลักๆต้องคำนึงถึงเหตุผล 

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า ที่ผ่านมากองทัพได้มีการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนามาโดยตลอด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะต้องสนใจเรื่องความมั่นคงในประเทศ ทั้งนี้มองว่า การที่พลเรือนมาคุมกองทัพเป็นสิ่งที่ดี จะได้รู้ได้เห็นว่า ในฐานะที่เป็นพลเรือนที่ดี เมื่อมารับผิดชอบในเรื่องความมั่นคง ก็จะเห็นว่าต้องปรับปรุงแก้ไขบ้าง 

“ปัญหาในกองทัพมีมาก เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำก่อนคือเรื่องคน ต้องมีการพัฒนายกระดับให้ทัดเทียม และ เป็นที่ยำเกรงของต่างประเทศ รวมถึงพัฒนายุทโธปกรณ์ แต่เรื่องที่สามคือปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมไม่ได้” พล.อ.ชวลิต กล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยกับนโยบายปรับลดกำลังพล ทำกองทัพให้เล็กกะทัดรัด ต้องคำนึงถึงความแข็งแกร่ง และเป็นเสาหลักให้ประเทศด้วย ขณะเดียวกันสภาพแวดล้อมของประเทศ ก็เอื้ออำนวยเพราะไทยไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร จึงอยากให้ค่อยๆคิดค่อยๆทำในแต่ละขั้นตอน

ทั้งนี้แนวคิดยกเลิกเกณฑ์ทหารและปรับมาเป็นการสมัครใจนั้นมองว่า ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นถึงปัญหา เพราะในหนึ่งปีมีการเกณฑ์ทหารครั้งเดียว โดยการระดมชายไทยทั่วประเทศมาเกณฑ์ทหาร และที่ผ่านมาเราก็แก้ไขกันมาตลอด จนมาถึงปัจจุบันนี้ที่ไม่อยากให้มีการเกณฑ์ทหาร

พล.อ.ชวลิตร กล่าวต่อว่า กองทัพก็มีทหารพราน เปรียบเหมือนทหารบ้าน ที่มาจากคนในพื้นที่ มีความเชี่ยวชาญ และถนัด รวมทั้งรู้ปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งใช้จำนวนคนไม่มากก็สามารถทำงานแก้ปัญหาได้ แต่หากเป็นทหารจากพื้นที่อื่นต้องใช้เวลาปรับตัวและเรียนรู้มากกว่า ดังนั้นจึงสอดคล้อง การทำงานในพื้นที่ ไม่จำเป็นต้อง ใช้ทหารจากพื้นที่อื่นมาทำงาน