วันที่ 7 ก.ย.2566 เวลา 12.20 น.ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปส.ส.พรรคก้าวไกล  ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมวิป 3 ฝ่ายกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย.ว่า การประชุมเป็นบรรยากาศกระชับมิตร ทุกคนพูดสอดคล้องกัน โดยจะมีการประชุม 2 วัน คือวันที่ 11-12 ก.ย. ฝ่ายค้านได้เวลา 14 ชม. วุฒิสภา 5 ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 5 ชม. ครม. 5 ชม. และจะพยายามไม่ให้เลิกดึกมากเกินไป เนื่องจากในช่วงเช้าวันที่ 13 ก.ย.จะมีการประชุมครม.
เมื่อถามถึงไม้เด็ดของพรรคก้าวไกลในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลครั้งนี้มีอะไรบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม้เด็ดอะไร เพราะการแถลงนโยบายของครม.ต่อสภาฯเป็นวาระที่สำคัญมาก เป็นการให้สัญญาต่อประชาคม ว่า 4 ปีหลังจากนี้รัฐบาลจะทำอะไรบ้าง พรรคก้าวไกลจะสอบถามในเรื่องนโยบายต่าง ๆและจะตั้งข้อสงสัย รวมถึงทวงถามคำสัญญาที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง ว่าจะดำเนินการเรื่องต่าง ๆอย่างไร โดยพรรคก้าวไกลได้เตรียมบุคคลที่จะอภิปรายไว้แล้ว

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลได้หารือกับพรรคประชาธิปัตย์ในการแบ่งคนอภิปรายอย่างไรบ้าง นายประกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ได้พูดคุยเบื้องต้นกับประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ แต่นายประมวลขอนำไปหารือกับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก่อน และในช่วงบ่ายสองจะพูดคุยกันอีกรอบ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่ามีเรื่องอะไรที่พรรคก้าวไกลจะเน้นอภิปรายเป็นพิเศษหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราให้ความสำคัญหลายเรื่องทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง สังคม ความเท่าเทียม เรื่องสุราก้าวหน้า การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แต่เรื่องหลักคือเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทางแกนนำรัฐบาลได้เคยให้สัญญาไว้ รวมถึงเราจะทวงถามในรายละเอียดในแต่ละนโยบาย จะดำเนินการอย่างไรและผลระยะยาวจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าฝ่ายรัฐบาลขอว่าการแถลงนโยบายครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายประกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ทุกคนน่าจะเห็นจากสมัยที่แล้วว่าพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ไม่ได้จะมาฟาดฟันกันทุกวาระ แต่การแถลงนโยบายประชาชนจะได้ประโยชน์มาก ถ้าครม.ได้ตอบคำถามของพรรคร่วมฝ่ายค้านได้อย่างชัดเจนทั้งหมดถือเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของสังคมและประชาชนในการเริ่มต้นทำงานของรัฐบาล
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นนายกฯครั้งแรก ทีนีก็เลยว้าวุ่น ขอให้สบายๆเริ่มต้นด้วยความมั่นใจดีกว่าอย่าเริ่มต้นด้วยความกลัว ส่วนที่เห็นจะมีการตั้งองครักษ์จะตั้งทำไม ก็ตอบตรงไปตรงมาก็จบแล้ว สบาย ๆ

เมื่อถามว่าคาดหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะให้ความสำคัญกับรัฐสภามากกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า คาดหวังอยู่แล้ว ในฐานะส.ส.ก็หวังอย่างยิ่งว่าเพราะพรรคเพื่อไทยก็เคยเป็นฝ่ายค้านร่วมกันมาก่อน เคยรู้ถึงความบอบช้ำที่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ให้ความสำคัญมาตอบคำถาม ก็ขอให้สมานฉันท์ สมานแปลว่าร่วมกัน ฉันท์แปลว่ากินหรือเปล่า

"เราก็อภิปรายตามเนื้อหาอยู่แล้ว ทำไมฝากเยอะจัง กลัวหรือเปล่า อย่าพึ่งกลัวเลย นายเศรษฐาเป็นนายกฯครั้งแรก พึ่งมาร่วมกับลุงที่นี่ก็เลยว้าวุ่นเลย อย่าว้าวุ่น เตรียมสมาธิดีกว่า"นายวิโรจน์ กล่าว