เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 6 ก.ย. ร.ต.อ.ทศพล  จิตต์สูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง  นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุมีคนจุดเตารมควันฆ่าตัวตายภายในรถ ที่บ้านเลขที่ 838/240  หมู่ 8 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง นครราชสีมา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิซิ รุ่นไทรทัน สีดำ เลขทะเบียน นครราชสีมา จอดอยู่บริเวณข้างบ้าน บริเวณเบาะที่นั่งคนขับพบศพนายพรหมรินทร์  อายุ 52 ปี  เสียชีวิตในลักษณะปรับเบาะเอนนอน สวมเสื้อยืดสีดำนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ และพบเตาอั้งโล่ถูกจุดจนมอดวางอยู่พื้นรถด้านหลังเบาะฝั่งผู้โดยสาร และกระจกด้านข้างฝั่งผู้โดยสารถูกทุบแตก



จากการสอบถาม นายแก้ว 28 ปี (น้องชายภรรยาเก่าของผู้ตาย) เล่าว่า ตนอาศัยอยู่กับผู้ตายในบ้านพร้อมกับลูกชายวัย 10 ขวบของผู้ตายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของตน แม้ว่าผู้ตายได้เลิกลากับพี่สาวตนหลายปีแล้วแต่ตนก็ยังอาศัยอยู่บ้านของผู้ตายพร้อมทั้งดูแลผู้ตายและหลานมาเป็นเวลาเกือบ 10 ปี ในช่วงที่เกิดเหตุตนเพิ่งไปรับหลานมาจากโรงเรียน  สังเกตพบความผิดปกติรถจอดติดเครื่องทิ้งไว้ จากนั้นหลานชายจึงได้มาดูพบว่าพ่อนอนอยู่ด้านใน ประตูล็อคทั้ง 2 ด้าน จึงเรียกตนให้ไปปลุก  แต่ปลุกไม่ตื่น ตนตกใจมากจึงรีบโทรไป 191 เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ใช้ค้อนทุบกระจก ตนจึงได้นำค้อนภายในบ้านมาทุบกระจกฝั่งผู้โดยสารเพื่อเปิดประตูรถ พบว่าพี่เขยของตนเสียชีวิตแล้ว  เนื่องจากผู้ก็ตายเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูดจา ตนจึงไม่ทราบสาเหตุในการลงมือคิดสั้นในครั้งนี้ ทราบเพียงว่าผู้ตายอาจเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านและภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนทั้งรถผ่อนทั้งบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายทำงานเป็นเซลล์ขายของมาหลายสิบปี ก่อนที่จะมาประสบปัญหาตกงานกลายเป็นผู้ว่างงานมาประมาณปีกว่า ซึ่งเป็นตนเองดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในบ้าน ตอนนี้ตนเองรู้สึกเสียใจและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายไม่มีญาติที่จังหวัดนครราชสีมา ญาติของผู้ตายอาศัยอยู่กรุงเทพมหานครทั้งหมด เบื้องต้นตนได้แจ้งไปบอกพี่สาวซึ่งเป็นอดีตภรรยาของผู้ตายได้ทราบแล้ว 

คาดว่าผู้ตายมีภาวะเครียดที่ต้องเป็นบุคคลว่างงานมาเป็นแรมปีและกังวลเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายจึงได้คิดสั้นจนเกิดเหตุสลดในครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งตรวจสอบที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง และตรวจสอบหาสาเหตุแรงจูงใจในการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ต่อไป