เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 ก.ย.66 พ.ต.ต.ชินวุธ ศิลปะเศวตร สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีคนยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 9/2 ม. 2 ซอยป่าเป้ง1 ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชุมพร กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในบ้านปูนหลังใหญ่ขนาด 2 ชั้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างชั้นล่าง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 78 ปี เจ้าของบ้าน สภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอนปูด้วยฟูกบางๆ สวมเสื้อแขนสั้นคอปกสีเทา กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล พบว่าในมือขวากำอาวุธปืนพกสั้น CZ ขนาด 9 มม.วางอยู่บนหน้าอก มีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณกกหูขวา ห่างจากศพผู้เสียชีวิตประมาณ 2 เมตร พบปลอกกระสุนตกอยู่จำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจบนเตียงนอนยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายวางอยู่ 1 เครื่อง มีสมุดฉีก 1 เล่ม เขียนข้อความสั่งเสียไว้โดยระบุว่า " ลาก่อน เราทำเอง " ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือทรัพย์สินสูญหาย
สอบถามภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่าสามีอยู่บ้านหลังเกิดเหตุเพียงคนเดียวทุกวันตนเองจะอาหารมาให้ผู้เสียชีวิตทุกมื้อและก็จะมานั่งคุยอยู่ที่บ้านเป็นประจำ เมื่อวานก็ยังเอาอาหารมาให้ในตอนเย็น สามีตนยังปกติดี เมื่อตอนเช้าประมาณ 08.00 น.วันนี้(6 ก.ย.) ได้มาที่บ้านไม่เห็นสามีจึงเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบ เมื่อเปิดประตูเข้าไปดูเห็นปืนอยู่บนตัวของนายอาทิตย์และมีคราบเลือดจึงเรียกลูกชายให้มาหาน่าจะเกิดเหตุร้าย พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้านลูกชาย เล่าให้ฟังว่า พ่อมีโรคประจำตัวคนแก่ คือความดัน เบาหวานและพึ่งจะไปหาหมอเพื่อรับยาไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีปัญหาทะเลาะกับคนในบ้านและไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุจูงใจให้พ่อยิงตัวตาย แต่ตนเองก็ยังข้องใจกับลักษณะของปืนที่อยู่บนตัวของพ่อ เพราะจากรอยกระสูนปืนที่มีบริเวณหลังกกหูขวา แต่ปืนทำไมถึงมาอยู่บนตัวของพ่อได้ อีกทั้งไม่เชื่อว่าข้อความที่เขียนลักษณะสั่งเสียนั้นเป็นลายมือพ่อตนเอง
ทางด้านเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนและพิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นจะเรียกคนในพื้นที่ รวมถึงคนงานก่อสร้างบ้านเพื่อให้ปากคำและสอบสวนอีกทั้งอย่างละเอียดอีกครั้งพร้อมทั้งรอผลชันสูจน์พลิกศพจากนิติเวชเพื่อสรุปหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป