ตำรวจภูธรภาค 1 ปิดถนนพหลโยธิน สกัดจับสองหนุ่มขับรถกระบะซุกยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด  มุ่งหน้ากรุงเทพ ผู้บัญชาการสั่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ


ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 3 ได้พยายามติดตามรถกระบะสีดำคันหนึ่ง ที่เป็นยานพาหนะใช้ลำเลียงยาเสพติดบนถนนมิตรภาพมุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร และได้ประสานตำรวจตั้งจุดสกัดบริเวณทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน เพื่อตรวจสอบรถคันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้าจำนวน 4 กระสอบรวมจำนวน 834 มัด หรือประมาณ 1,668,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ พร้อมควบคุมตัวผู้ที่เดินทางมากับรถยนต์คันดังกล่าวจำนวน 2 คน คือนายนนทวัฒน์ อายุ 25 ปีทำหน้าที่เป็นคนขับรถ และนายศุภวัฒน์ อายุ 32 ปีโดยสารมากับรถคันดังกล่าว 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 หลายคดีที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่า นายนนทวัฒน์ และนายศุภวัฒน์ กำลังเตรียมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคอีสานเพื่อนำไปส่งมอบให้กับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง จุดเริ่มต้นจับได้ 150 เม็ดเมื่อเดือนตุลาคมปี 2565 พื้นที่จังหวัดสระบุรี  แล้วจับกุมต่อเนื่องในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 อย่างต่อเนื่อง มาถึงปัจจุบัน ได้ของกลางมากกว่า 46 ล้านเม็ด รวมถึงยาไอซ์อีกกว่า 900 กิโลกรัม จากการสืบสวนพบว่ายาเสพตืดที่จับกุมได้ส่วนใหญ่ถูกนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำการสืบสวนขยายผล ติดตามจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โปรยเผยอีกว่ายาเสพติดดังกล่าวหากแพร่กระจายลงเข้าสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการแล้วติดตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป

พล.ต.ท.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เผยว่า สำหรับตัวการใหญ่ซึ่งมีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ การสืบสวนรู้ตัวอยู่แล้วว่าใคร แต่ยังไม่สามารถที่จะมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงเพื่อออกหมายจับได้ ซึ่งการประสานการติดตามตัวจับกุมระหว่างประเทศนั้น ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนก่อน ซึ่งหลังจากนี้ต้องเร่งหาพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการรายใหญ่ต่อไปให้ได้

สำหรับนายนนทวัฒน์ และนายศุภวัฒน์ ถูกตั้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้ทั่วประเทศ 1 โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป