เมื่อเวลา 14.16 น. วันที่ 5 ก.ย. 2566  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ถ่ายภาพร่วมหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลังเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ

จากนั้นเวลา 14.27 น. นายเศรษฐา นำคณะครม. ร่วมแถลงข่าวว่า วันนี้ตนได้นำ ครม. เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์และปฏิญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนและครม. จะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป  ตนขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนและทุกท่านที่มาในวันนี้มาที่นี่ มาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน  รัฐบาลนี้เรามีความตั้งใจ เพราะปัญหามีมากมาย เราจะทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยทุกวัน ทุกนาที เราจะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง เริ่มจากวันที่ 8 ก.ย.นี้ตนจะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จ.อุดรธานีและจ.หนองคาย เพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของประชาชนทุกคนเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไปและสัปดาห์หน้าในวัน 11 ก.ย.จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้เราจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข โดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ โปร่งใสภายใต้หลักการที่มีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืนในอนาคต

เมื่อถามว่า การประชุมครม.นัดพิเศษในวันที่  6 ก.ย. เป็นการประชุมเรื่องอะไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องการเตรียมตัวแถลงนโยบายในวันที่ 11 ก.ย. 

เมื่อถามต่อว่า นายกฯ จะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองหรือไม่ เพราะปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ค่อนข้างจะเยอะนายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรัฐบาลนี้ทุกท่านให้ความสำคัญ ขอไปพูดคุยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เพราะหลายคนอาจจะมีความคิดที่ดีและจะแจ้งให้ทราบ

เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงงบประมาณล่าช้าหรือไม่นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนและรัฐมนตรีทุกท่านที่ยืนอยู่ ณที่นี้ทราบถึงปัญหานี้ และคิดว่าคงไม่เป็นอุปสรรคใดๆในการบริหาร อะไรทำได้ก่อน เราจะทำทันที

เมื่อถามอีกว่า นโยบายแจกเงิน 1 หมื่นดิจิทัลจะอยู่ใน 100 วันแรกที่รัฐบาลจะทำได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่เคยบอกว่า 100 วัน แต่จะพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด คิดว่าไม่เกินไตรมาสแรกของปีหน้ายืนยันว่าอย่างไรก็ต้องทำ และเป็นการจ่ายรวดเดียวงวดเดียว

เมื่อถามว่า นายกฯ เป็นผู้นำรัฐบาลความหวังของประชาชน ได้ตั้งเป้าไว้หรือไม่ภายใน 1-2 ปีประชาชนจะมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นคำถามที่ประชาชนทุกคนอยากจะทราบ วันนี้เรื่องปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่ง ที่ประเทศเรากำลังเผชิญอยู่ทุกวัน ตนมั่นใจว่า รัฐมนตรีทุกท่านจะทำงานอย่างหนักพยายามเข็นนโยบายออกมา เพื่อเป็นประโยชน์ให้ประชาชนทุกคน บางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างทำได้ช้า และจะไม่เอามาเป็นข้ออ้างในการไม่ทำทั้งหมด อะไรที่ทำได้เร็วเราจะรีบทำก่อน

เมื่อถามอีกว่า จะมอบรองนายกฯคนใดดูงานด้านความมั่นคง นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอไปพูดคุยกันก่อนเพราะรัฐมนตรีบางท่านวันนี้เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ขอโอกาสพูดคุยกันก่อน ซึ่งหลายท่านอาจจะมีข้อคิดที่ดี จึงจะขอรับฟังก่อน

เมื่อถามอีกว่า นายกฯให้เวลาในการประเมินผลงานของรัฐมนตรีกี่เดือน นายเศรษฐา กล่าวว่า คงแล้วแต่เรื่อง เพราะบางเรื่องอาจจะใช้เวลานาน ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีทุกคนด้วย ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนเข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหาของประชาชน และในเรื่องการทำงานจนเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่ประเด็น ขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกท่านได้ทำงานก่อน

เมื่อถามว่า มีระยะเวลาฮันนีมูนให้กับ ครม.หรือไม่นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี ตั้งแต่เราเริ่มฟอร์มรัฐบาลชุดนี้มา เราก็ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากประชาชน เพียงแต่ว่ายังสั่งในการบริหารจัดการแผ่นดินไม่ได้ ซึ่งในวันที่ 8-9 ก.ย. จะลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลและปัญหา จะต้องรอแถลงนโยบายรัฐบาลก่อนจึงจะสั่งการได้ ย้ำว่าไม่มีฮันนีมูน เริ่มงานทันที

เมื่อถามต่อว่า นายกฯจะใช้หลักอะไรในการบริหาร เมื่อมีพรรคร่วมรัฐบาลจำนวนมากเพื่อให้เป็นเอกภาพ นายเศรษฐา  กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านในที่นี้เข้าใจ และตระหนักดีถึงปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยไม่มีการแบ่งก๊วน แบ่งพวก และแบ่งฝ่าย 

เมื่อถามต่อว่า กรณีที่นายกฯ ระบุว่างานไหนที่ทำไม่ได้ต้องเปลี่ยนคน นายเศรษฐา กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ตนหมายความว่าอะไรที่ทำได้ก็ทำไปก่อน อะไรที่ติดขัดก็ทำต่อไปแต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำอะไรเลย

เมื่อถามถึง นโยบายการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ขึ้นมาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญนายเศรษฐากล่าวว่า จะเรียนให้ทราบในการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งจะมีรายละเอียดตรงนั้น

เมื่อถามอีกว่า จะมอบหมายรองนายกฯคนใดให้ดูแลเรื่องกฎหมายเป็นพิเศษ นายเศรษฐา กล่าวว่า  เดี๋ยวจะมีการพูดคุยกันในการมอบหมาย ซึ่งมีการวางตัวไว้แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่อยู่ดีๆเราจะไปตัดสินใจ ต้องถามความเห็นจากรัฐมนตรีทุกท่าน 

เมื่อถามอีกว่า นายกฯ ถ้าพูดประโยคหนึ่งให้เข้าหูประชาชนอยากจะพูดว่าอะไร นายเศรษฐา นิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “เป็นอะไรที่ยาก ถ้าจะต้องพูดประโยคเดียว ผมขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง และพวกเราตำหนักดีถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด ถ้าเรื่องนี้รัฐบาลจะให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน และพยายามเดินไปข้างหน้า รวมถึงจะพยายามจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด”

เมื่อถามด้วยว่า หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไปในรัฐบาลชุดนี้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจ มั่นใจ เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน

เมื่อถามว่า การเดินทางไปประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 78 (The 78th UN General Assembly หรือ UNGA 78) ระหว่างวันที่ 18-26 ก.ย. ณ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะบอกกับแต่ละประเทศอย่างไรให้หันกลับมาสนใจประเทศไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่ต้องไปพูดคุยกันแล้วแต่เรื่องที่เราจะไปเจอกับผู้นำในหลายประเทศ ซึ่งอาจจะไปเจอกับนักธุรกิจด้วย จึงขอเตรียมงานก่อน

นายเศรษฐา​ ปฏิเสธการตอบคำถาม ความอิสระในการบริหารงานของรัฐบาล​ ทั้งที่นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในประเทศไทย

เมื่อถามว่า นายกฯ จะนอนทำเนียบฯ หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “อันนั้นขอไปดูก่อนครับ”