ธปท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจไทยเดือน ส.ค.66 ปรับลดลงเล็กน้อย เหตุค่าครองชีพสูงกดดันกำลังซื้อ ส่วนผู้ประกอบการอ่วมภาวะต้นทุนพุ่งต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนี RSI ต่ำกว่าระดับ 50 ยาว 3 เดือนติด ลุ้นอีก 3 เดือนหน้าฟื้น อานิสงส์ตั้งรัฐบาลชัดเจน หวังมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อชุดใหม่ออกต้นปี 2567
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (Report On Business Sentiment Index) เดือน ส.ค. 2566 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมปรับลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ระดับ 48.9 จาก 49.3 ในเดือนก่อนหน้า จากการลดลงของความเชื่อมั่นด้านการผลิต ผลประกอบการและต้นทุน โดยความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตปรับลดลงในหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มการค้าที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ และกิจกรรมการค้าลดลงมาก เนื่องจากค่าครองชีพอยู่ในระดับสูงกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังเปราะบาง ซึ่งมีส่วนทำให้การปรับขึ้นราคาสินค้าทำได้อย่างจำกัด แม้ว่าธุรกิจจะเผชิญกับภาวะต้นทุนสูงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจากเกือบทุกธุรกิจ แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่มปรับเพิ่มขึ้นตามความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านการผลิตปรับเพิ่มขึ้นมาก ส่วนกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตยานยนต์ ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกด้าน แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนความเชื่อมั่นที่ยังแย่ลงจากเดือนก่อน ขณะเดียวกันอุปสงค์โลกที่ชะลอลง และปริมาณสินค้าคงคลังของคู่ค้าที่ยังอยู่ในระดับสูง กดดันให้ความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปรับลดลงมากจากด้านผลประกอบการ
สำหรับในอีก 3 เดือนข้างหน้านั้น ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 54.1 จาก 53.3 ในเดือนก่อนหน้า จากเกือบทุกองค์ประกอบและจากเกือบทุกธุรกิจ นำโดยกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการและการส่งออกปรับดีขึ้นมาก ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นมาก แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จากปัจจัยฉุดรั้งด้านต้นทุนที่สูงเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นโดยรวมและธุรกิจอื่นยังมีทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับปัจจุบัน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นที่อยู่เหนือระดับ 50 ได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธปท. ยังได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index : RSI) เดือน ส.ค. 2566 ซึ่งทำการสำรวจข้อมูลระหว่างวันที่ 16-28 ส.ค. 2566 พบว่า ดัชนี RSI เดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 46.7 ต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากปัจจัยฉุดรั้ง เช่น กำลังซื้อที่เปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนฐานราก และภาวะต้นทุนที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทำให้ธุรกิจปรับขึ้นราคาสินค้าได้อย่างจำกัด
ขณะที่ความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่59.9 จากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความชัดเจนขึ้น และความหวังต่อมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อชุดใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2567
ทั้งนี้ หากจำแนกตามประเภทร้านค้า พบว่า ความเชื่อมั่นในปัจจุบันปรับลดลงในทุกประเภทร้าน ยกเว้น ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารที่ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้น ตามการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน และการรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ส่วนความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ค่าใช่จ่ายต่อครั้ง (Spending per bill) และความถี่ในการใช้บริการทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน
โดยความเชื่อมั่น SSSG ปรับดีขึ้นในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ที่ดัชนีความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50 จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความเชื่อมั่นปรับแย่ลงจากเดือนก่อน สะท้อนจากดัชนีฯ ที่ปรับลดลงและอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนการฟื้นตัวได้ช้ากว่าภูมิภาคอื่น