เมื่อเวลา 17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 18 (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 6 กันยายน 2566) ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 4 กันยายน 2566
ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย ลำปาง ตาก กำแพงเพชร พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 5 กันยายน 2566
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
วันที่ 6 กันยายน 2566
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน 10 วันล่วงหน้า จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) : 4- 5 ก.ย.66 เป็นช่วงที่ประเทศไทยยังมีโอกาสที่มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักกระจายหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่บริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามันด้านรับมรสุม (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล) ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมมีกำลังแรง
เนื่องจากมรสุมมีกำลังแรง ส่วนร่องมรสุมยังพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย จึงทำให้ยังมีฝนกระจายเและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ดังกล่าว ระวังฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้บริเวณใกล้แนวร่องมรสุมพาดผ่าน ต้องติดตามประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
6-13 ก.ย.66 ฝนยังมีต่อเนื่อง แต่ปริมาณฝนส่วนใหญ่ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง มรสุมมีกำลังอ่อนลง ส่วนร่องมรสุมยังเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านทางภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ทำให้ ยังมีฝนเกิดขึ้นได้บางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง (รวม กทม.และปริมณฑล) ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนและด้านรับมรสุม คลื่นลมยังมีกำลังปานกลาง ชาวเรือ ชาวประมงต้องระมัดระวัง