วันที่ 4 กันยายน 2566 เวลา 14.00 น.ที่ห้องสุนทรราชเดช ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดยโสธรหลังเก่า นายรัตน์ภิโพธิ์ ทวีกันย์ อุปนายกสมาคมชาวยโสธร พร้อมด้วย นายอภิชาติ ดวงจันทร์ ประธานชมรมศิลปินและอาชีพสายบันเทิงจังหวัดยโสธร และคณะเดินทางเข้าพบนายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เพื่อขอขอบคุณนายวิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรสั่งให้ยกเลิกการเปลี่ยนคำขวัญจังหวัด และให้คงคำขวัญ "บั้งไฟโก้ แตงโมหวาน หมอนขวานผ้าขิด แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ" ไว้เหมือนเดิม

 

จากกรณี ที่สื่อออนไลน์ทางเฟสบุ๊คในจังหวัดยโสธร ได้มีการโพสและแชร์เนื้อหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนคำขวัญจังหวัดยโสธรใหม่น เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้มีกระแสทางสื่อสังคมต่างๆ และไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จะเปลี่ยนแปลงคำขวัญ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดยโสธร  และได้สั่งการให้ยกเลิกคำขวัญใหม่ ให้คงไว้ซึ่งคำขวัญเดิมตามที่ชาวจังหวัดยโสธรส่วนใหญ่ต้องการ โดยในวันนี้ ได้มอบหมายให้ นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มาร่วมประชุมแทน เนื่องจากติดราชการ

นายรัตน์ภิโพธิ์ ทวีกันย์ แจ้งว่า ในฐานะอุปนายกสมาคมชาวยโสธร และคนยโสธร จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นความเข้มแข็ง และความเป็นน้ำหนึ่ง ในเดียวกันของคนยโสธร และสำคัญที่สุดคือคำว่า “คนยโส” จะเห็นว่า เมื่อเกิดมีเหตุอะไรเกิดขึ้น เราก็จะหาข้อยุติโดยสมานฉันท์ การมาขอพบในวันนี้ ก็เพื่อจะขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ที่สั่งให้ยุติการเปลี่ยนคำขวัญจังหวัดยโสธร และยินดีร่วมสร้างผลงานกับทางจังหวัดต่อไป 

ด้าน นายอภิชาติ ดวงจันทร์ ได้แจ้งเพิ่มเติมว่า ในนามประธานชมรมศิลปินและอาชีพสายบันเทิงจังหวัดยโสธร และในนามของประชาชนชาวยโสธรบางส่วน ขอขอบคุณ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้ยุติและชลอการเปลี่ยนคำขวัญประจำจังหวัดยโสธร พร้อมทั้งเสนอแนวทางในการพัฒนาจังหวัด และเสนอแนะว่าหากจะดำเนินการเปลี่ยนคำขวัญประจำจังหวัดในโอกาสต่อไป ขอให้ภาคประชาชนชาวจังหวัดยโสธร และทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งทางชมรม สมาคม และประชาชนคนยโสธร มีความยินดีที่จะส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดยโสธรด้วยดี  

   ทั้งนี้ นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่เข้าใจและรับทราบเจตนารมณ์ ของผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ซึ่งท่านได้ขอโทษและสั่งยกเลิกการเปลี่ยนคำขวัญจังหวัดยโสธรแล้ว ต่อไปนี้ก็จะได้ร่วมมือกันขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดยโสธร เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป