หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานเพื่อรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...
ต้องขอแสดงความยินดีกับ “ครม.ชุดใหม่” นามรหัส “เศรษฐา 1” ดังที่ปรากฏรายชื่อ ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา “หน้าตาครม.” ทั้ง 36 ตำแหน่ง ผู้เล่นอาจจะถูกใจ และไม่ถูกใจใครบ้าง เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่เหนืออื่นใด คือการที่ “รัฐมนตรี” ในรัฐบาลใหม่ จะสามารถ “เป็นที่หวัง” แสดง “ผลงาน” ให้เป็นที่ประจักษ์ได้หรือไม่ ...*...
ปัญหาเก่าที่เคยผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องที่กระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่ ของผู้คนจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังหรือไม่ พี่น้องที่ใช้แรงงาน จำนวนไม่น้อยต้องทำงานชนิดที่เรียกว่า “วิ่งรอก” ก็ยังหาเงินไม่พอกับ “ค่ากินค่าอยู่” แม้ “หน้าตา” และ “กระแสสังคม” ที่มีต่อ “รัฐมนตรีบางราย” จะไม่ได้ออกมาในทางที่เป็นบวก แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ จะมีก็แต่ “ผลงาน” เท่านั้นที่จะบอกได้ว่า “รัฐมนตรี” คนไหน กระทรวงไหน มีศักยภาพโดยมี “ผลงาน” เป็นเครื่องพิสูจน์ เพื่อลบคำครหาที่ว่า การแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี เพื่อจัดสรรอำนาจให้กับกลุ่มการเมืองเท่านั้น ...*...
ไทม์ไลน์การเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ครม.ใหม่ “เศรษฐา 1” ในห้วงสัปดาห์นี้ “นายกฯเศรษฐา” เตรียมนำ ครม.เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ในวันอังคารที่ 5 ก.ย.นี้ ในเวลา 14.00 น.จากนั้นจะมีการประชุม “ครม.นัดพิเศษ” ในวันที่ 6 ก.ย. เพื่อนัดพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค เพื่อสรุปและเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะมีในวันที่ 8 - 9 ก.ย. หรือวันที่ 11 - 12 ก.ย.นี้ โดยอยู่ในขั้นตอนระหว่างประสานกับรัฐสภา และเมื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เรียบร้อยแล้วจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนัดแรกต่อไป ...*...
แม้ปฏิทินการเมืองจะถูกวางเอาไว้แล้ว แต่ดูเหมือนว่า “รัฐบาลเพื่อไทย” โดยเฉพาะ “นายกฯเศรษฐา” ได้ใช้เวลาเดินสายลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนนำร่องไปก่อนแล้ว ทำให้หลายคนอดคิดไปถึงก่อนหน้านี้ที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เดินสายพูดคุยกับหลายภาคส่วนอย่างคึกคัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว มี “เสียงเตือน” ว่าควรที่จะรอให้ได้เป็น “นายกฯ” อย่างเป็นทางการเสียก่อน แต่เสียงเตือนที่ว่านั้นกลับไปไม่ถึง “พิธา-พรรคก้าวไกล” ดังนั้นนี่จึงเป็น “ความเหมือน” ที่มี “ความต่าง” ซึ่ง “เศรษฐา” เลือกที่จะรอความชัดเจนเสียก่อน ! ...*...
เรียกว่าเป็นเก้าอี้ที่สร้างความฮือฮา มาตั้งแต่ต้น จนถึงนาทีนี้ ต้องยกให้ เก้าอี้ “รมว.กลาโหม” หรือรหัส “สนามไชย1” เพราะสุดท้ายแล้ว “พรรคเพื่อไทย” เลือกที่จะส่ง “พลเรือน” มาคุม “กองทัพ” เมื่อชื่อ “สุทิน คลังแสง” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กลายเป็น “บิ๊กทิน” นั่งรมว.กลาโหม เต็มตัว แม้จะมีรายงานว่า “เศรษฐา” หนีบ “สุทิน” ไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ “ผบ.เหล่าทัพ” ชุดใหม่ เพื่อเป็นการแนะนำตัว แต่เชื่อว่าจากนี้ไป “กระทรวงกลาโหม” จะกลายป็น “จุดโฟกัส” จุดใหม่ทางการเมือง ! ...*...
ที่มา:พันแสง (04/09/66)