เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ก.ย. 66 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการการะทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงขั้นตอนการทำงานต่อไปของรัฐบาลชุดใหม่ ว่า มีหลายสิ่งที่จะต้องคุยกัน ทำไปวันต่อวัน วันนี้จะมีการพูดคุยในเรื่องขั้นตอนการทำงานของนโยบายเรื่องดิจิทัลวอลเลต โดยจะต้องมีการพบปะกับอีกหลายภาคส่วน

เมื่อถามต่อถึงปัญหาการจัดสรรงบประมาณ จะทำทันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เคยบอกว่ามีปัญหาแต่อาจจะช้าไปบ้าง เมื่ออาสาเข้ามาบริหารประเทศแล้ว มีขีดจำกัด เราก็ต้องทำให้ได้ ส่วนที่นักวิชาการหลายคนออกมาบอกว่าจะทยอยจ่ายที่ละ 2,000-3,000 บาทนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ โดยในช่วงเที่ยงของวันนี้จะมีการไปรับประทานอาหารกับว่าที่รัฐมนตรีอีก 16 คน ซึ่งจะมีการพูดคุยในเรื่องนโยบาย และการทำงาน รวมถึงความคาดหวัง คงไม่ใช่การเจอกันเพียงแค่ผิวเผิน

เมื่อถามต่อว่า จะมีการพูดคุยในประเด็นอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีประเด็นอะไรเป็นพิเศษ คงพบปะพูดคุยรับประทานอาหารธรรมดา เพื่อทำความรู้จักและเข้าใจสไตล์การทำงานของแต่ละคนมากยิ่งขึ้น ตนเองมาจากภาคธุรกิจ การทำงานกับภาคการเมืองหรือสส.เอง อาจจะยังมีความไม่เข้าใจกัน จึงต้องพูดคุยกันให้ดี 

เมื่อถามถึงการได้หารือผู้บัญชาการเหล่าทัพเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ดีเป็นการเก็บข้อมูล และรับฟังความคิดเห็นของผบ.เหล่าทัพ ขาดเพียงว่าที่ผบ.ทอ.ไปหนึ่งคน เนื่องจากต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่ก็ได้มีการพูดคุยกันแล้ว โดยได้ฝากความเห็นในหลายๆ เรื่องไป ทั้งการลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชน ซึ่งสถาบันทหารก็ได้รับฟังและรายงานกลับมาว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง 

เมื่อถามถึงความชัดเจนในนโยบายของพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องรอการแถลงการณ์ร่วมกันดีกว่า ขอให้เข้าบริหารราชการแล้ว และรัฐมนตรีได้พบกับผบ.เหล่าทัพ ทุกคนอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเมื่อวานนี้เป็นแค่การพูดคุยกัน

เมื่อถามถึงการวางงบประมาณกองทัพ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยไปไกลถึงขนาดนั้น ตนเองก็ยังใหม่ อยากฟังว่าผบ.เหล่าทัพทำอะไรกันอยู่บ้าง นอกเหนือจากความปลอดภัย อย่างกอ.รมน. ตนก็ไม่ทราบว่าทำอะไรบ้าง หรือมีขอบเขตการทำงานอย่างไร จึงต้องไปรับฟังความคิดเห็นและพูดคุยกัน ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทุกคนในการอธิบายอย่างละเอียด เช่น ว่าที่ผบ.สูงสุด จะเดินทางไปที่สหประชาชาติพร้อมกับตน ในวันที่ 18 ก.ย. ช่วงกลางคืน เพื่อเจรจาเรื่องความมั่นคงกับสหรัฐอเมริกา

เมื่อถามถึงการรายงานการทำงานของกองทัพให้ประชาชนรับรู้ได้มากขึ้น นายเศรษฐา กล่าวว่าการทำงานประชาสัมพันธ์ของกองทัพกับประชาชนไม่ได้ติดขัด แต่ทางกองทัพทำอะไรดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนหลายเรื่องรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต ไม่ได้มีการชี้แจง และเผยแพร่ในสื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา ตนจึงอยากเข้าไปช่วยว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย จึงอยากให้ความเป็นธรรมกับกองทัพด้วยเช่นกัน หากปรับเรื่องการสื่อสารได้ดีขึ้น ประชาชนก็จะได้ทราบเรื่องดีๆที่กองทัพทำ ส่วนจะดึงผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ เข้ามาช่วยหรือไม่นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นกิจลักษณะ ทั้งนี้ คงจะมีขั้นตอนที่ชัดเจนระหว่างการทำงานของรัฐบาลและกองทัพ ภายหลังจากการถวายสัตย์ปฏิญาณและเริ่มนโยบาย

เมื่อถามว่า จะสานต่อในเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้หากมีการพูดคุยแล้วจะแจ้งให้ทราบ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการทาบทามพล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายเศรษฐา ย้อนถามว่า ใครเป็นคนพูด พร้อมยืนยันว่าไม่ทราบ แม้ส่วนตัวจะสนิทกัน แต่ยังไม่เคยพูดคุยกันในเรื่องนี้ 

เมื่อถามว่า ก่อนจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะมีการเดินสายพูดคุยเพื่อขอคำแนะนำมาประกอบในนโยบายหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทำอยู่ตลอดทุกวัน ขณะนี้นโยบายเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว กำลังส่งพิมพ์อยู่ และคงจะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง 

เมื่อถามว่าในวันที่ 5 ก.ย. ที่จะถึงนี้ จะเข้าทำเนียบรัฐบาลแต่เช้าเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หมายกำหนดให้ไปถึงในเวลา 10.30 น.