เมื่อเวลาประมาณ 20.20 น. ของวันที่ 2 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) หลังรับแจ้งเหตุมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว จึงนำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์ ร.ต.ท.ธีระยุทธ วันโสภา ร.ต.ท.ปรวัฒน์ กนกทอง ร.ต.ต.พิสิษฐ์ เมฆแสงสี รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง ด.ต.วิชัย ตามสมัย ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ ด.ต.สุธิวัฒน์ มณีรัตน์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ได้ทำการจับกุมนายสมชัย (สงวนนามสกุล)อายุ25 ปี อยู่บ้าน หมู่ที่ 11 ต.เชียงของ อ.วังเจ้า จ.ตาก ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งเอนกประสงค์สามตอน ยี่ห้อ TOYOTA FORTUNER สีน้ำตาล ทะเบียน สุโขทัย บรรทุกบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 21 คน ได้ที่บริเวณ กม.53-54 ถนนพหลโยธิน ทล.1 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั้งวันที่( 2 กันยายน 2566 ) เวลาประมาณ 20.10 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์นั่งสามตอน ยี่ห้อ TOYOTA FORTUNER สีน้ำตาล ติดแผ่นป้ายทะเบียน สุโขทัย โดยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าว เมื่อเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามมา กลับเร่งเครื่องหลบหนีอย่างรวดเร็วไปตามถนนพหลโยธิน ในขณะนั้นมีฝนตกถนนลื่นรถยนต์คันดังกล่าว ก็ยังได้ขับขี่หลบหนีด้วยความเร็วแซงซ้าย แซงขวารถคันอื่น มีการเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหันเป็นการขับขี่รถโดยประมาทหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ของผู้ใช้รถใช้ถนน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ตามติดๆ จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.53-54 ถนนพหลโยธิน ทล.1 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทางหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 5 กิโลเมตร และได้สั่งให้หยุดรถ จากนั้นได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าวที่มีนายสมชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาว ต.เชียงของ อ.วังเจ้า จ.ตาก เป็นผู้ขับขี่ โดยมีโดยสาร เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง จำนวน21 คน นั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว
จากการสอบสวนนายสมชัยฯ คนขับให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทยชื่อลี (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าว ที่บริเวณ ป่าข้างทาง อ.แม่ท้อ จ.ตาก จำนวน 21 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยได้รับค่าจ้าง 15,000 บาท/ครั้ง โดยระหว่างทางจะมีชายไทย 2 คน คือ 1.นายก้องภพ (สงวนนามสกุล)อยู่บ้านหมู่ที่ 11 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก และ 2.นายป๋อ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ขับขี่รถยนต์กระบะ ISUZU สีขาว เป็นคนขับขี่ นำเส้นทางเพื่อดูด่านตรวจหรือรถตำรวจ จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวง เรียกตรวจสอบทำแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆ
ส่วนบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ให้การยอมรับสารภาพผ่านล่ามว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทางจะมีญาติเป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหานายสมชัย แซ่จ๊ะ คนขับรถบรรทุกแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 3.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ 4.ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ สำหรับแรงงานต่างด้าวในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป