ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี พร้อมด้วย ชุดสืบสวน สภ.สุขสำราญ ไล่ติดตามจับกุมรถยนต์ สาวกระบี่ วัย29 ขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน เข้าพื้นที่ชั้นใน ด้วยรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สุดท้ายไปไม่รอดเจอ ทหารและตำรวจใช้ยุทธวิธีขับรถขนาบคู่ โดยใช้รถ 2 คัน ขับแซงหน้าและขนาบข้างเข้าทำการจับกุม
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 เวลา 12.00 น. พันเอกภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวจะมีการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา เข้าพื้นที่ชั้นใน จึงสั่งการให้ ทหารประจำ จุดตรวจสุขสำราญ กองร้อย.ร.2521 สนธิกำลังร่วม ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สุขสำราญ เข้าทำการลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจรถเป้าหมายในพื้นที่ ม.1 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง
ต่อมาสามารถตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ป้ายทะเบียน จังหวัดกระบี่ ปิดฟิล์มกระจกสีดำสนิท ต้องสงสัยขับออกจากพื้นที่เป้าหมาย และขับรถยนต์ขึ้นบนถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข4 กำลังมุ่งหน้าไปทาง จ.พังงา เจ้าหน้าที่จึงเปิดยุทธวิธี ขับรถขนาบคู่ ไล่ติดตามรถคันดังกล่าว จนถึงช่วงถนน 4 เลน จึงเข้าสกัดจับรถเป้าหมาย โดยรถเจ้าหน้าที่คันแรกแล่นแซงปิดหน้า และรถเจ้าหน้าที่คันที่สองได้ขนาบข้าง ก่อนบังคับให้รถยนต์เป้าหมายแล่นช้าลง และบังคับให้จอดที่บริเวณหัวสะพานคลองกำพวน ม.2 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว คนขับเป็นหญิง ชื่อ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และภายในห้องโดยสารด้านหลัง พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา เป็นชาย 4 คน หญิง 3 คน รวม 7 คน และให้ลงจากรถยนต์ มาทำแผนในที่เกิดเหตุ เพื่อชี้ตัวผู้นำพาออกนอกพื้นที่
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า แรงงานทั้งหมด ให้การว่าได้เดินทางมาจาก จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา เข้ามาประเทศไทยผ่านการตรวจคนเข้าเมือง โดยทำเอกสารเดินทางชั่วคราว (Border Pass) ซึ่งอนุญาตให้อยู่ในเขต อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เป็นระยะเวลา 7 วันเท่านั้น มีเป้าหมายเพื่อจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับขบวนการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติ นายหน้าทางฝั่งประเทศเมียนมา เป็นเงินรายละ 18,000 บาท ส่วน นางสาวเอ ผู้นำพา ให้การยอมรับว่า ตนได้รับการติดต่อว่าจ้างจากชายคนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ให้มารับแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ บริเวณ ม.1 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง โดยจะนำพาแรงงานทั้ง 7 คน ไปส่งในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินหัวละ 1,500 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 10,500 บาท ซึ่งจะได้รับค่าจ้างเมื่อส่งถึงตำบลปลายทาง
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้นำพา ที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมแรงงานต่างด้าว รวม 8 คน และรถยนต์ จำนวน 1 คัน ส่ง สภ.สุขสำราญ จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป