กรณีนายปกป้อง  ปุสุรินทร์คำ อดีตสมาชิกสภา (สท.) เทศบาลนคร (ทน.) นครนครราชสีมา ในฐานะมีบ้านอยู่ติดคลองน้ำธรรมชาติ ได้ยื่นหนังสือถึงนายสยาม  ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมาและกองทัพภาคที่ 2 เรื่องการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ลำตะคองข้างโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมาถึงอ่างเก็บน้ำอัษฎางค์ ระยะทางประมาณ 2,500 เมตร โดยตอกเสาเข็มจำนวน 2,266 ต้น เป็นตอม่อสร้างแนวสันเขื่อนริมตลิ่ง อาจเป็นสิ่งกีดขวางเส้นทางน้ำส่งผลต่อปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้นายฉัตร  สุภัทรวณิชย์ ส.ส เขต 1 จ.นครราชสีมา พรรคก้าวไกล (กก.) ได้อธิปรายประเด็นดังกล่าวในสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 กันยายน ที่สะพานข้ามลำตะคอง หลักกิโลเมตรที่ 188+565 ทางหลวงหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา นายเกษม  ศุภรานนท์ อดีต ส.ส. เขต 1 จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนและช่วยผลักดันโครงการซึ่งมีเป้าหมายให้ลำตะคองสวยน้ำใสเป็นแลนด์มาร์คเมืองโคราช รองรับการพัฒนาในอนาคต เป็นแหล่งท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อนหย่อนใจรวมทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วมและระบบนิเวศช่วงน้ำแล้ง พร้อมนายบุญถึง  ผลพานิชย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการในฐานะสมาชิกกลุ่มพลังโคราช พปชร.ลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างโครงการดังกล่าว พบวิศวกรและคนงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อึ้งแซเฮง กำลังใช้เครื่องจักรกลตัดเสาเข็มที่ตอกลงไปในลำตะคอง เพื่อใช้เป็นตอม่อสร้างแนวสันเขื่อนริมตลิ่งและนำรถแบคโฮลงโป๊ะเก็บงานในคลองน้ำธรรมชาติ โดยกำชับให้นายช่างควบคุมงานให้เรียบร้อยและป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรวบรวมข้อมูลนำเสนอให้ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ รับทราบความก้าวหน้า

นายเกษม ในฐานะอดีต ส.ส เขตพื้นที่ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางปี 2562 เมื่อครั้ง ร.อ.ธรรมนัส ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้นำคณะลงเรือตรวจสภาพเส้นทางคลองน้ำธรรมชาติ ช่วงไหลผ่านเขตเมือง จากท่าน้ำวัดท่าตะโกถึงท่าน้ำวัดสุสาน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร พบเห็นปัญหาหลากหลายมิติ เนื่องจากลำตะคองเป็นคลองน้ำขนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมทั้งส่งและระบายน้ำอยู่ในที่เดียวกัน ประกอบกับสองข้างทางเป็นที่ตั้งสถานที่ราชการทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน โรงเรียนขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โครงการบ้านจัดสรรและตลาดสด จึงได้สอบถามกับหัวหน้าส่วนที่ลงเรือลำเดียวกันด้วยความสนใจ รวมทั้งรับทราบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่ส่งผลกระทบถึง รพ.มหาราช นครราชสีมา จึงห่วงใยและผลักดันเสนอของบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมือง มูลค่ากว่า 270 ล้านบาท ที่ได้ออกแบบไว้ก่อนหน้านี้ ให้ดำเนินการโดยเร็ว

ทั้งนี้สภาพที่เห็นในขณะนี้เป็นระยะเริ่มต้นการวางโครงสร้างต่างๆ ซึ่งดำเนินได้ประมาณ 50 % ส่งผลให้ภูมิทัศน์อาจดูไม่สวยงาม ขอยืนยันได้วางแผนออกแบบลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด โดยขุดลอกเพิ่มพื้นที่ระบายน้ำให้มีระดับความลึกกว่า 4 เมตร รวมทั้งปรับปรุงพัฒนาภูมิทัศน์สองฝั่ง โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวโคราชอย่างแน่นอน คาดเห็นเป็นรูปร่างช่วงกลางเดือนตุลาคมปีนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะมีการประกวดตั้งชื่อสถานที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโคราช นายเกษม กล่าว