ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสมุทรสาคร โดยนางนิตรา เพิ่มทรัพย์ ลิ้มกาญจนาพันธุ์ ผอ.สนง.ป.ป.ช.จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนาง สายเพชร จังกาจิตต์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดแถลงข่าวกรณีความคืบหน้าของการดำเนินงาน รอบระยะ 6 เดือน ของทาง ป.ป.ช. คือสอบด้านปราบปรามการทุจริต ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ทั้งนี้โดยระหว่างวันที่ 1 เมษายน 66 -30 กันยายน 66 จำนวน 3 ด้าน ไดแก่ ภารกิจด้านปราบปรามการทุจริต, ภารกิจด้านการตรวจสอบทรัพย์สิน และภารกิจงานป้องกันการทุจริตทั่วไป โดยมีสื่อมวลชนท้องถิ่นเข้าร่วมสังเกตการณ์ 

ทั้งนี้จากสถิติจำนวนเรื่องการกล่าวหาหรือร้องเรียน อยู่ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า จำแนกได้ตามประเภทหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ราชการส่วนภูมิภาค, สถานศึกษา, โรงพยาบาล และเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น ส่วนเรื่องร้องเรียนในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น อาทิเช่น การจัดซื้อจัดจ้าง, การเงิน การเรียกสินบน, การบริหารงานบุคคล (บรรจุ-แต่งตั้ง-เลื่อนขั้น) และการบริการด้านสุขภาพ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ด้านการปกครองลักษณะท้องที่, การเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ, การก่อสร้างพื้นฐาน เป็นต้น และเรื่องตรวจสอบเบื้องต้นที่ยกมา/รับใหม่ ในปีงบประมาณ 2566 รวมทั้งสิ้น 62 เรื่อง โดยขณะอยู่ระหว่างเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง เพื่อรับไว้ไต่สวนในเบื้องต้น และส่งหน่วยงานภายนอก ไม่รับไว้พิจารณา จำนวน 32 เรื่อง คงเหลือ 30 เรื่อง และดำเนินการแล้วเสร็จ คิดเป็นร้อยละ 51.61 ของจำนวนเรื่องทั้งหมด อาทิเช่น คดีกล่าวหาฯ ผู้บริหาร อปท.กับพวก ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน ตรวจรับงานจ้างและอนุมัติ เบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ บริเวณทิศตะวันตกของอาคาร สนง.ทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จ 

“สำหรับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีลงมติชี้มูลความผิดด้านวินัยร้ายแรงฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ซึ่งมีการสั่งลงโทษทั้งจำและปรับ นอกจากนี้ มีการติดตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาสังกัด สนง.คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือประโยชน์ตอบแทน เพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, การติดตามมาตรการและข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต, กรณีโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน, ข้อเสนอแนะ เพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำหนักเกินอีกด้วย เป็นต้น”


ในส่วนขณะที่มีเรื่องไต่สวนเบื้องต้น ยกมาหรือรับใหม่ทั้งหมดรวม 17 เรื่อง ทางสำนักงานฯ ดำเนินการแล้วเสร็จรวม 9 เรื่อง, ยอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา 9 เรื่อง คงเหลือ 8 เรื่อง

สำหรับด้านสถิติในชั้นตรวจสอบเบื้องต้นโดยมีเรื่องกล่าวหาร้องเรียน ซึ่งจำแนกเป็นประเภทหน่วยงานรัฐ ได้แก่ อปท.จำนวน 35 แห่ง, ราชการส่วนภูมิภาค 14 แห่ง, โรงเรียนหรือสถานศึกษา 8 แห่ง, โรงพยาบาล 4 แห่ง และกระบวนการยุติธรรม 1 แห่ง ซึ่งเรื่องร้องเรียนอยู่ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ การจัดซื้อจัดจ้าง 21 เรื่อง, การเงิน 15 เรื่อง และการเรียกรับสินบน 5 เรื่อง

นางนิตรา กล่าวต่อว่า ขณะที่เรื่องกล่าวหานั้นมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งหนึ่ง (กับพวก) ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตรวจรับงานจ้างและอนุมัติเบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้างอาคาร เอนกประสงค์บริเวณทิศตะวันตกของอาคารสำนักงาน ทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิด โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษปรับ และจำคุกคณะกรรมการตรวจงานจ้าง และผู้ควบคุมงาน รวม 6 คน และมีผู้รับจ้าง รวม 2 คน โดยถูกโทษจำคุกแต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และในส่วนของผู้อนุมัติ เบิกจ่ายให้กับผู้รับจ้างทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จ อย่างไรก็ดีโดยมีศาลได้นะนำให้แยกฟ้องอีกคดีหนึ่งซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ระหว่างพิจารณาและดำเนินการต่อไป