ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ​สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เงินบาทอ่อนค่าลงช่วงต้นสัปดาห์ตามทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ประกอบกับน่าจะมีแรงกดดันบางส่วนจากสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดีเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวลง หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด (อาทิ การเปิดรับสมัครงานเดือนก.ค. และการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือนส.ค.) ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดอาจยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่กรอบเดิมที่ 5.25-5.50% ในการประชุม FOMC เดือนก.ย. นี้ เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลงในช่วงปลายสัปดาห์ เพราะแม้จะมีแรงหนุนจากสัญญาณการดูแลเงินหยวนของทางการจีน แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีแรงกดดันจากแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

สัปดาห์ระหว่างวันที่ 4-8 ก.ย. 2566 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.80-35.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศ อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ค่าเงินหยวน รายงาน Beige Book ของเฟด ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ จีน ยูโรโซน และอังกฤษ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย ตลอดจนตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค. ของจีน

ส่วนความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือนที่ระดับ 1,579.43 จุดช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนจะกลับมาปิดใกล้เคียงระดับปิดสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบกับมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหลังข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ นำโดย หุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ข่าวการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของบจ. บางแห่งก็มีส่วนกดดันบรรยากาศการลงทุนช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

สัปดาห์ที่ 4-8 ก.ย. 2566 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,550 และ 1,540 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,580 และ 1,600 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค.ของไทย สถานการณ์การเมืองในประเทศ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนส.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน และยูโรโซน รายงาน Beige Book ของเฟด ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 ของญี่ปุ่น ตลอดจนตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ของจีน