การดัน “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. (ตท.24) ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. และ ให้ “บิ๊กปู” พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) แม่ทัพภาค 1 ขึ้น เสธ.ทบ. ล้วนมีนัยสำคัญ
จากเดิมที่ จะขึ้น เป็น ผช.ผบ.ทบ. ที่อาวุโสกว่า เสธ.ทบ. แต่ก็ต้องหลบทางคืนให้ พล.อ.ธราพงษ์ รุ่นพี่ ที่ครั้งที่แล้วหลบทางให้พลโทพนา ขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 1 จนทำให้เกิดกระแสความเห็นใจ และ ยินดีที่ พล.อ.ธราพงษ์ ขึ้น ผช.ผบ.ทบ. ในการโยกย้ายครั้งนี้เพราะจะถือว่าเป็นแคนดิเดท ผบ.ทบ. อีกคน แถมเป็นทหารคอแดง เช่นกันด้วย
“บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. จัดทัพ 5 เสือทบ. รองรับ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รองผบ.ทบ. (ตท.23) ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คนใหม่ เป็นสายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมี “บิ๊กโต” พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ผช.ผบ.ทบ. เพื่อน ตท.23 ขยับเป็น รอง ผบ.ทบ.
ส่งผลให้ 5 เสือทบ. มีนายทหารคอแดง ถึง 4 คน และ เป็น นายทหารคอเขียว 1 คนคือ “บิ๊กหยอย” พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เสธ.ทบ. (ตท.24 ) ที่ก็ถือเป็น แคนดิเดท ด้วย จากสายคอเขียว และมีอายุราชการถึง 2570 แม้จะเป็น สายบุ๋น ก็มองข้าม ไม่ได้
ในอีกมุมหนึ่ง การที่ พล.ท.พนา ขึ้น เสธ.ทบ. ที่เป็นงานสำคัญ เพื่อทำหน้าที่ เสธ.คู่ใจ พล.อ.เจริญชัย ผบ.ทบ. ด้วย เพราะจะต้องทำงานเคียงข้างกัน ใน ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย และยังถูกมองเป็น เต็งหนึ่ง ผบ.ทบ.คนต่อไป ต่อจาก พล.อ.เจริญชัย ที่เกษียณ ตุลาคม 2567 โดย พลโทพนา เกษียณ 2570 ส่วน พล.อ.ธราพงษ์ มีอายุราชการถึง 2569
ขณะที่นายทหารคอเขียวก็ยังมีโอกาสเพราะเป็นคนเก่ง ทั้ง พล.อ.อุกฤษฏ์ และรวมถึง “บิ๊กต้น” พล.ท.ณัฐวุฒิ นาคะนคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) ที่แม้ไม่ได้ขึ้น ห้าเสือกองทัพบก แต่ก็ขึ้นเป็นพลเอก ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบกและมีอายุราชการถึง 2568 ก็สามารถชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ.ได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า รบพิเศษก็เป็นสายตรง ของ “บิ๊กแอ้ด” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี สายเลือดพิเศษ และ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี อดีต ผบ.ทบ.
ดังนั้น อะไรก็เกิดขึันได้หลัง การมีรัฐบาลใหม่ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และ มี เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีและคาดว่า สุทิน คลังแสง จะเป็น รมว. กลาโหมพลเรือนคนแรก ที่มาแบบโดดๆ ไม่ได้ เป็น นายกรัฐมนตรี แล้วควบ กลาโหม เช่นที่เคยเป็นมา
เพราะทำให้เกิดความกังขาว่าเพราะเหตุใดพรรคเพื่อไทย และรวมถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สายเลือดเตรียมทหาร 10 ที่ก็รู้จักกองทัพรู้จักทหารดี จึงเลือกที่จะให้ สุทิน มาเป็น รมว.กลาโหม
แน่นอนว่าย่อมมีเรื่องของการปฏิรูปกองทัพแต่ก็เป็นที่จับตามองว่าจะในระดับใดเพราะไม่มีใครอาจรู้ได้ว่าอดีตนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้ได้กลับมาอยู่แผ่นดินเกิด อาจจะมีแผน คุมกำเนิดกองทัพ จัดวางการคุมอำนาจ บาลานซ์ ระหว่างทหารคอ เขียวกับทหารคอแดง
แม้ว่าในความเป็นจริงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ต้องผ่านการพิจารณาร่วมกันของบอร์ด 7 เสือ กลาโหม ที่เป็นไปตามพระราชบัญญัติกระทรวงกลาโหม และยิ่งในยุคของ สุทิน เป็นรมว.กลาโหม จึงทำให้มีฝ่ายการเมืองแค่ 1 เสียงเพราะไม่มีรมช. กลาโหม ก็ยากที่จะแย้งกับความเห็นส่วนใหญ่ของผู้บัญชาการเหล่าทัพ
ที่สำคัญคือกองทัพบกได้มีธรรมเนียมนิยมมาเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ ผบ.ทบ.จะต้องเป็นนายทหารคอแดง โดย พล.อ.เจริญชัย ถือเป็น ผบ.ทบ.คอแดง คนที่ 3
แม้ว่า จะเคยมีกระแสข่าวลือว่า ฉก.ทม.รอ.904 จะมีการบริหารจัดการ เรื่อง นายทหารคอแดง ใหม่ เพื่อไม่ให้เกิด ปัญหาความแปลกแยก และ แบ่งสี ภายใน ทบ. เพราะ ไม่ใช่แค่ ปัญหาระหว่าง คอแดง กับคอเขียว เท่านั้น แต่การชิงเก้าอี้สำคัญ ของบรรดานายทหารคอแดง ในแต่ละรุ่น ก็เข้มข้น
โดยเฉพาะ ระหว่าง ตท.26-ตท.27 และ ตท.28 ที่เห็นชัดจาก การโยกย้ายครั้งนี้ที่ เมื่อ “บิ๊กปู” พล.ท. พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) แม่ทัพภาค1 ขึ้น เสธ.ทบ. แล้ว ก็ผลักดัน “บิ๊กรุ่ง” พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพน้อย 1 เพื่อนรัก ตท.26 ขึ้น แม่ทัพภาค 1 แถมหนุน “บิ๊กใหญ่” พล.ต.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) รองแม่ทัพภาค 1 ทหารเสือราชินี สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ เบียด ตท.28 ขึ้นเป็น พลโท แม่ทัพน้อย 1 ได้ด้วย
เพราะมีทั้ง “รองไก่” พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ รองแม่ทัพภาค 1 และ “รองกอล์ฟ” พล.ต.สราวุธ ไชยะสิทธิ์ รองแม่ทัพภาค 1 ที่เป็น ตท.28 ทั้งคู่ ชิงทั้ง แม่ทัพภาค 1 จนเลยมาถึง เป็นแม่ทัพน้อย 1 แต่งานนี้ ตท.28 ก็ตัองรอไปก่อน อันสะท้อน เกมในสายอำนาจ ในทบ. ในยุค พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ,จากสายทหารเสือราชินี ที่จะหนุน ตท.26 และ ตท.26 มากกว่า ตท.28 ต่างจากยุค “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เป็น ผบ.ทบ.
ดังนั้นการขยับแรงๆ จากโผนี้ นี่ไม่ใช่แค่ในส่วนของกองทัพบกแต่ยังมีกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ จนทำให้เกิดแรงกระเพื่อม ท่ามกลาง การเปลี่ยนรัฐบาล และ เปลี่ยนขั้วอำนาจ ที่ต้องรอดูกันต่อไป ถึง เกมของ พรรคเพื่อไทย และ อดีตนายกฯ ทักษิณ ที่เคยถูกรัฐประหาร มาถึง 2 ครั้ง ทั้งตนเอง และ น้องสาว ย่อมต้องพยายาม ที่จะไม่ทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย