JKN มั่นใจ ศักยภาพธุรกิจและการเงินยังแข็งแกร่ง กำไรสุทธิครึ่งปีเติบโต 102 ล้านบาท แนวโน้มครึ่งปีหลังสดใส พร้อมรับรู้รายได้ค่าลิขสิทธิ์ประกวด MU กว่า 400 ล้านบาท นักวิเคราะห์คาด ปีนี้ ทั้งรายได้และกำไร มีแนวโน้มเติบโตได้ดี

คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพธุรกิจและสถานะการเงินยังแข็งแกร่ง ตอกย้ำสามารถขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากซึ่งผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ทำรายได้รวม 1,500 ล้านบาท เติบโต 51% และมีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% โดยในไตรมาส 2/2566 (เมษายน-มิถุนายน) JKN มีรายได้รวม 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และมีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปีนี้ มีปัจจัยสำคัญจากกลุ่มธุรกิจหลัก คือจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ และธุรกิจใหม่คือกิจการองค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MUO) เพื่อนำมา Synergy กับ Ecosystem ของกลุ่ม JKN Group เพื่อส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง ตอกย้ำให้เห็นถึงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ Global Content Commerce Company ให้ประสบความสำเร็จ

โดยในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทเริ่มทยอยรับชำระเงินตามสัญญาในด้านต่างๆของธุรกิจองค์กรมิสยูนิเวิร์ส MUO รวมเป็นเงินกว่า 230 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 นี้ บริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้จากการเก็บค่าลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส จากทั่วโลกและค่าตั๋วเข้าชม ซึ่งบริษัทฯ จะรับรู้รายได้ค่าลิขสิทธิ์การจัดประกวด Miss Universe (MUO) ประมาณ 400 ล้านบาท และจะมีรายได้จากการส่วนแบ่งค่าโฆษณาและสปอนเซอร์ชิพ การจำหน่ายบัตรชมงานอีกด้วย ซึ่งเมื่อนำมารวมกับรายได้หลักจากการจำหน่ายคอนเท้นท์ที่ยังเติบโตได้ดี จึงมั่นใจว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองแนวโน้มการเติบโตครึ่งปีหลังของ JKN ไว้ว่า แนวโน้มกำไรจะฟื้นตัวเด่นใน ครึ่งปีหลัง 2566 จะเติบโต HoH และ YoY โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) การรับรู้รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการลิขสิทธิ์ขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MUO) ประเทศเอลซัลวาดอร์ ราว 566 ล้าน เพิ่มจากครึ่งปีแรกปีนี้ที่รับรู้รายได้ 230 ล้านบาท ซึ่งมีการรับรู้รายได้ทั้ง จากการจัดงานประกวด รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ รายได้จากค่าตั๋วเข้างาน 2) ธุรกิจขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ คาดยอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ 3) ธุรกิจ Commerce ที่มีแผนขยายสินค้าในตลาดใหม่ๆมากขึ้น และปรับกลยุทธ์เน้นขายสินค้า House Brand มากขึ้นช่วยให้อัตรากำไรดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดธุรกิจใหม่เกี่ยวข้องกับ MUO สู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์แอนด์สปา และทัวร์ท่องเที่ยว Inbound-outbound ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินมีแนวโน้มดีขึ้น

คุณจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง จะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของ JKN จากแผนงานขยายกลุ่มธุรกิจ MUO ไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ภายใต้กลยุทธ์ 3P: Pageant Platform Productผ่านโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย เช่น การร่วมมือกับพันธมิตร หรือการให้สิทธิใช้แบรนด์มิสยูนิเวิร์สที่ได้รับค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ ช่วยสร้างการเติบโตและมีรายได้ประจำและสม่ำเสมอ เนื่องจาก ‘มิสยูนิเวิร์ส’ เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก สามารถต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์แอนด์สปา และทัวร์ท่องเที่ยว Inbound-outbound เพื่อทำตลาดไปทั่วโลก โดยคาดว่าเริ่มทำตลาดได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 นอกจากนี้จะมีรายได้จากการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 72 ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายปีนี้อีกด้วย จึงมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตปีนี้จะทำได้มากกว่า 3,000 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้