ตามรายงานของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา จีนได้ลงนามเอกสารความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road) ร่วมกับ 152 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 32 องค์กร มากกว่า 200 ฉบับ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 83 เปอร์เซ็นต์ของประเทศที่มีสัมพันธ์ทางการฑูตกับจีน
ตลอดสิบปีของโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ มีผลงานโดดเด่น อาทิ รถไฟจีน-ยุโรป เส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก” (New Western Land-Sea Corridor – NWLSC) และรถไฟจีน-ลาว เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงงาน “รถไฟจีน-ยุโรป (China Railway Express)” ปูเส้นทางการขนส่งไว้แล้วกว่า 84 เส้นทาง พาดผ่านประเทศต่างๆ ในยุโรปกว่า 25 ประเทศ และ 211 เมือง เมื่อนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ถึง ปี ค.ศ. 2022 การนำเข้าและส่งออกสินค้าและมูลค่าการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (Overseas Direct Investment หรือ ODI) ของจีนตามเส้นทางประเทศต่างๆ ของโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 8.6% และ 5.8% ต่อปีตามลำดับ มูลค่าการลุงทุนระหว่างกันกับประเทศตามเส้นทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” สะสมมากกว่า 270,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าในต่างประเทศที่สร้างโดยวิสาหกิจจีนในประเทศที่มีความร่วมมือสร้างตำแหน่งงานในท้องถิ่น 421,000 ตำแหน่ง
คาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ. 2030 การก่อสร้างร่วมกันของโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" จะช่วยให้ผู้คน 7.6 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนขั้นรุนแรง และ 32 ล้านคน หลุดพ้นจากความยากจนปานกลางในประเทศร่วมมือกับโครงการ และจะเพิ่มรายได้ทั่วโลก 0.7% ถึง 2.9%