นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคาจ้างจัดบริการอาหาร/เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ จำนวน 8 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ (กรุงเทพ – เชียงใหม่) สายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพ - อุบลราชธานี) และสายใต้ (กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี) โดยได้เปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีบริษัทเอกชนซื้อเอกสารการประกวดเสนอราคา
ล่าสุด การรถไฟฯ ได้ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคาจ้างจัดบริการอาหาร/เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถรอบใหม่ เพื่อให้ได้ผู้รับจ้างโดยเร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการออกประกาศเชิญชวนเสนอราคา คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 90 วัน จึงจะทราบผลพิจารณา ดังนั้น ในระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ การรถไฟฯ จึงงดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมทั้งปรับลดอัตราค่าตั๋วโดยสาร จำนวน 80 บาททุกที่นั่ง เป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะได้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการ
สำหรับขบวนรถที่มีการปรับลดราคาทั้ง 8 ขบวน มีดังนี้
1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7/8 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21/22 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุบลราชธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
3. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 39/40 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สุราษฎร์ธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
4. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43/44 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สุราษฎร์ธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
นายเอกรัช กล่าวว่า การรถไฟฯ ยังขอให้ผู้โดยสารจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้รับประทานบนขบวนรถด้วยตนเอง หรือหากมีความประสงค์จะสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่ม สามารถแจ้งพนักงานบนขบวนรถเพื่อเตรียมการสั่งซื้ออาหารให้กับผู้โดยสารได้ล่วงหน้าโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มแต่อย่างใด
สำหรับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าก่อนวันที่ 1 กันยายน 2566 สามารถขอรับเงินคืนค่าบริการอาหาร จำนวน 80 บาทได้ในวันที่เดินทาง โดยแสดงตั๋วโดยสารกับพนักงานบนขบวนรถ เพื่อทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนที่สถานีปลายทางต่อไป ซึ่งการรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวก มา ณ โอกาสนี้ ผู้โดยสารสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย