วันที่ 31 ส.ค.66 ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.สรธรรศจ์ 
เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

1.รวบหนุ่มฟิลิปปินส์ฉ้อโกงธนาคารในสหรัฐ มีความผิดกว่า 12 กระทง ความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

สตม. ได้รับการประสานงานจากสำนักงานตำรวจสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FBI กรณีผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายร็อดเดอริค (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ผู้ต้องหาตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน ข้อหาสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อฉ้อโกงธนาคารและการฉ้อโกงทางไปรษณีย์ กระทำความผิดกว่า 12 กระทง โทษจำคุกสูงสุด 30 ปี นายร็อดเดอริคเป็นพนักงานของบริษัท Priority One ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนเงินทุนและขายสินเชื่อให้กับลูกค้า โดยนายร็อดเดอริคจะปล่อยสินเชื่อ เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย และจัดทำข้อมูลเครดิตเท็จของผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อส่งให้ธนาคาร Wells Fargo Bank, N.A. (WFB) สถาบันการเงินที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาดำเนินการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งนายร็อดเดอริคจะได้รับเงินตอบแทน (commission) จากการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว สร้างความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

กก.4 บก.สส.สตม. จึงได้สืบสวนติดตามตัวนายร็อดเดอริคเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. นายร็อดเดอริค ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.66 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ค.66 หลบซ่อนตัวอยู่ในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านรัชดา เขตห้วยขวาง กทม. จึงได้ติดตามเฝ้าดูจนพบบุคคลที่มีลักษณะคล้ายนายร็อดเดอริค จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน จากนั้นนายร็อดเดอริคได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจค้นห้องพัก พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเอกสารที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จึงได้แจ้งข้อหาและสิทธิให้ทราบและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้นายร็อดเดอริคไม่ได้กระทำความผิดในประเทศไทยแต่อย่างใด

2.รวบหนุ่มมะกันตามหมายจับอนาจารเด็กหญิง เชื่อก่อเหตุหลายครั้ง

สตม. ได้รับการประสานข้อมูลจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ กรณีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 766/66 ลง 22 ส.ค.66 ผู้ต้องหาชื่อ นายเดวิส (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี สัญชาติอเมริกัน กระทำความผิดฐาน กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เขตสาทร กทม. พฤติการณ์การกระทำความผิด คือ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 มารดาของผู้เสียหายได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่า ขณะพักอาศัยอยู่ในบ้านพัก พี่เลี้ยงของผู้เสียหายพบเห็นผู้เสียหายใช้สองมือล้วงเข้าไปในกางเกงชั้นในซึ่งเป็นอวัยวะเพศของตน โดยผู้เสียหายแจ้งกับพี่เลี้ยงว่า นายเดวิส ครูประจำโรงเรียนที่ผู้เสียหายกำลังศึกษาอยู่ มักจะใช้มือตีและถ่ายภาพอวัยวะเพศของผู้เสียหาย มารดาจึงพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และเข้าร้องกับสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยและมูลนิธิต่างๆ เพื่อประสานงานพาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

กก.4 บก.สส.สตม. จึงได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จนทราบว่า นายเดวิส ได้ถือหนังสือเดินทางประเทศอเมริกา เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 ด้วยวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว (NON-90) อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 1 ก.ย.66 โดยอาศัยอยู่ในอาคารชุดหรูแห่งหนึ่ง เขตวัฒนา กทม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการเฝ้าดูและติดตามจนพบนายเดวิส ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวจึงได้แจ้ง นายเดวิส ว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป      

3.รวบหนุ่มแดนน้ำหอม OVERSTAY หนีหมายจับซุกไทย

บก.สส.สตม. ได้รับประสานข้อมูลจาก สอท.สาธารณฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย กรณีผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายโรแมง (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการฝรั่งเศส ในข้อหา ลักลอบนำเข้ายาผิดกฎหมาย (ยาเพาะกายและยาที่มีสารสเตียรอยด์) และยาปลอม พฤติการณ์การกระทำความผิดของนายโรแมง คือ นายโรแมงเป็นพ่อค้านำเข้ายาในกลุ่มยาสเตียรอยด์รายใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส และนำเข้ายาปลอมต่างๆ ที่ใช้กับพวกนักกีฬา โดยจะนำเข้ายามาจากประเทศแถบยุโรปเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นนักกีฬาและกลุ่มคนออกกำลังกายในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งกระทำความผิดมานานหลายปี ต่อมาเมื่อถูกทางการฝรั่งเศสสืบทราบถึงการกระทำความผิด จึงหลบหนีออกจากประเทศ ทั้งนี้ สอท.สาธารณฝรั่งเศสได้ติดตามตัวจนกระทั่งทราบว่านายโรแมงหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จึงได้ประสานข้อมูลให้ บก.สส.สตม. ทราบ

ผบก.สส.สตม. ได้สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ผลการตรวจสอบพบว่า นายโรแมงเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 ม.ค.66 ด้วยวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว (NON-B) ครบกำหนดอนุญาตวันที่ 30 ก.ค.66 การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดแล้ว สืบทราบว่าพักอาศัยและทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง อ.บางใหญ่ จว.นนทบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่า นายโรแมงได้รับอนุญาตให้ทำงานที่บริษัท ตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยี โดยนายโรแมงอ้างถึงสาเหตุการอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (OVERSTAY) ว่าตนเองอยู่ในระหว่างการขอออกหนังสือเดินทาง  เล่มใหม่ เนื่องจากหนังสือเดินทางเล่มเก่าหมดอายุเมื่อวันที่ 30 ก.ค.66 จึงยังไม่ได้ไปยื่นคำร้องขออยู่ต่อในราชอาณาจักรกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมนายโรแมง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาดังกล่าว จากการสืบสวนขยายผลทราบว่านายโรแมงไม่ได้กระทำความผิดในประเทศไทยแต่อย่างใด

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง