คู่รักสายกินตอนนี้กระแสมาแรงแซงทางโค้งสุดๆ สำหรับ โอปป้า มาวิน ทวีผล กับแฟนสาวไฮโซผู้บริหารสุดปัง “คุณตู่ ปิยวดี” ทายาทช่อง3 ที่ล่าสุดตกเป็นดราม่าอีกครั้งว่าขยันเปย์สามี ซื้อบ้านซองชายมูลค่ากว่า 50ล้าน จนฝ่ายชายเจอสับเละว่าตกถังข้าวสาร ไม่พอแค่นี้แม้จะหวานแหววกันแค่ไหนก็ยังมิวาย ถูกเกรียนคีย์บอร์ดจิกกันความรักของคู่นี้อยู่บ่อยๆ งานทั้งคู่พร้อมตั้งโต๊ะเคลียร์คัทเรี่องร้อนๆ ผ่านรายการ “โต๊ะหนูแหม่ม” กับพิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม สุริวิภา” แบบหมดเปลือก 
    
ข่าวเม้าท์ซื้อบ้านหลังใหญ่มูลค่า 50ล้าน สรุปเงินใคร?
คุณตู่ : “จริงๆมันไม่ใหญ่มากนะ เราได้บ้านหน้ากว้าง ก็เลยดูเหมือนใหญ่มากจริงๆมันไม่ได้ลึก แบบถ้าบ้านหน้าแคบมันก็อาจจะไม่อลังเท่านี้ก็ได้ คนเลยเข้าใจว่าเราต้องเป็นคนออกทั้งหมดแน่เลย ก็มาพูดว่าคนนี้สบายแล้ว ถ้าบ้านปัจจุบันที่เคยอยู่เลยก็คือเป็นตึก 7ชั้น แล้วพอเราแยกมาอยู่ เราก็คิดเยอะมากเลย เรารู้สึกว่าถ้าบ้านนี้เป็นบ้านของสองคน จากน้ำพักน้ำแรงของเราสองคน เค้าก็มีส่วนร่วมด้วย คือจริงๆเราหารครึ่งกันนะคะ เรารู้สึกว่าถ้าวันนึงเรามีลูก แล้วลูกมาถาม คือเราภูมิใจที่จะตอบได้เลยว่ามันเป็นเงินของเราทั้งสองคนจริงๆ แล้วเค้าก็จะภูมิใจที่จะพูดสิ่งนั้นออกมาพ่อก็ร่วมไปด้วยกัน ก็เลยพยายามหาบ้านที่โอเคกับรายได้ตอนนั้น ว่าเราจะไหวที่เท่าไร ที่สำคัญเลยคือเค้าที่จะต้องไหวไปกับเราด้วย”


    
มาวิน : “คือเมื่อ3ปีที่แล้วเจอบ้านหลังนี้ หลังจากดูมา20-30กว่าที่ รู้สึกถูกโฉลก ถูกกับฮวงจุ้ยที่นี้ บ้านเลือกเรา” 
    
ตั้งแต่เป็นแฟนกันมาช็อคกับคำพูดไหนที่บั่นทอนจิตใจบ้าง?
    
มาวิน :  “ตกถังข้าวสารครับ เมื่อก่อนไม่แฮปปี้ เพราะเว่าเราไปแคร์คำพูดคนอื่น แต่ตอนนี้คิดในใจ เคยมีรุ่นพี่ที่สนิทบอกว่าไอ้วิน มึงตกถังข้าวสารดีกว่าตกถังขยะนะเว้ย ตกถังขยะทั้งเหม็นและไม่ได้อะไรด้วย มีแต่เศษนะเว้ย เราก็เลยคิดใหม่ เปลี่ยนมายด์เซ็ทเราใหม่ ถ้าเราตกถังข้าวสาร เราก็ต้องลงมือทำ และข้าวนั้นมันก็ข้าวของเรา เราก็ทำให้มันล้นถังไปเลย เราก็ทำมาหากินแบบนั้น”

แล้วคนข้างกายอย่าง คุณตู่ ให้กำลังใจกันยังไง?
    
มาวิน :  “คนนี้ให้กำลังใจตลอด ไม่ว่าจะยังไงก็ตามแต่ ผมมีวันนี้ได้ เราต้องตัดคนรอบข้างออก ถ้าอยู่กับคนรอบข้าง แล้วมีความสุขกับคนข้างๆอันนี้ชีวิตคู่ไม่ถูกต้องล่ะ แต่ถ้าอยู่กับคนข้างๆแล้วมีความสุข คนรอบข้างจะเป็นเรื่องรองทันที อันนี้สำคัญมาก ตราบใดที่ยังนอนข้างกันแล้วมีความสุขอยู่”


    
คุณตู่ : “ตู่รู้สึกว่าคนอื่นเค้าไม่ได้รู้จักเรา เค้าอาจจะคิดได้ ด้วยความที่เราต่างกันมากจริงๆ เราก็มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ก็ไม่แปลกที่เค้าจะคิดแบบนี้ เค้าคิดได้ถ้าเค้าไม่รู้จักเรา ถ้าวันนึงเค้าได้มาสัมผัสเราเค้าจะเปลี่ยนความคิด เพียงแค่วันนี้เค้าไม่ได้รู้จักเราเท่านั้นเอง”

แล้วคุณตู่ ต้องรับมือกับคำไหนบ้างที่โดนเยอะสุด?
    
คุณตู่ : “เยอะมากๆ แรกๆคืออ่านแล้วน้ำตาไหลเหมือนกันนะ ว่าเราโง่บ้าง ปัญญาอ่อนบ้าง เป็นผู้บริหารได้ไงถ้าจะโง่ขนาดนี้ เราก็รู้สึกว่าแค่เรามีแฟนเราดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ (หัวเราะ) คือตู่เลือกความสบายใจ ตู่อยู่กับเค้าตู่เป็นตัวของตัวเอง ตู่ไม่ต้องประดิษฐ์อะไรเยอะ จะกินอะไรก็ได้ จะทำอะไรก็ได้ คือเราได้เป็นตัวเราเลย”