ตํารวจสอบสวนกลาง(CIB) รวบเจ๊นุ๊คกับพวก ค้ากามเด็กผ่านทวิตเตอร์ โยงเครือข่ายรวบกลุ่มผู้ซื้อบริการทันควัน

ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ภายใต้การอํานวยการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร.ได้สั่งการให้ กองบัญชาการ ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) นําโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปคม.

ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทงั้หมด 8 ราย
แบ่งเป็น ผู้ต้องหาท่ีเป็นนายหน้าชักจูงค้าประเวณีเด็กจํานวน 3 ราย ได้แก่1.น.ส.ภาพิมลฯ อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ. 2580/2566​ 2.น.ส.ปาริฉัตร ฯ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2581/2566
3. น.ส.โดกี้ หรือ น.ส.ฐานิตาฯ อายุ 19 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2695/2566 ในความผิดฐาน “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์และได้กระทํา
ความผิดตามที่สมคบกัน,ร่วมกันค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยนช์จากการค้าประเวณีเด็กฯ (ความผิดตาม พรบ.ค้า มนุษย์ฯ ),ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทําการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะ ยินยอมก็ตาม เป็นการกระทําแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ว่าบุคคลน้ันจะยินยอมก็ตามซึ่งเป็นการกระทํา แก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี , ร่วมกันกระทําด้วยประการใด ๆ โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่นรับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีซึ่งผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ให้บริการ , ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกิน สิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย เพื่อหากําไรหรือเพื่อการอนาจาร (ความผิดตาม ป.อาญา) , ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทําให้เด็กมี ความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทําผิดและกระทําการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อ การใด (ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน )”และผู้ต้องหาท่ีเป็นลูกค้าซ้ือบริการ อีกจํานวน 5 ราย ได้แก่4.นายวุฒิพงศ์ ฯ อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2780/2566 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2566 จับกุมได้ บริเวณหน้าโรงงานแห่งหน่ึง ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง​ 5. นายอาวุธ ฯ อายุ 34 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2784/2566 ลงวันที่ 30 ส.ค. 2566 จับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนในพนื้ที่ต.นิคมพัฒนาอ.นิคมพัฒนาจ.ระยอง


6. นายศิริวัฒน์ ฯ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2786/2566 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2566 จับกุม ได้ทบี่ริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่งต.นิคมพัฒนาอ.นิคมพัฒนาจ.ระยอง
7.นายวัทน์ศิริ ฯ อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2787/2566 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2566 จับกุมได้ใน พื้นที่ ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จว.ระยอง8.นายพงษ์ศักดิ์ฯ อายุ40ปีตามหมายจับศาลอาญาที่2788/2566ลงวันที่30สิงหาคม2566จับกุม ไดบ้ริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งต.บ้านค่ายอ.บ้านค่ายจ.ระยอง
ในความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือ ผู้ดูแลโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย เพื่อหากําไรหรือเพื่อการอนาจาร (ความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 319 ต้องระวางโทษ จําคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ) , ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทําให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทําผิดและกระทําการ อันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด (ความผิดตาม พรบ.คุ้มครองเด็กและเยาวชนฯ มาตรา 26,74 มีอัตราโทษ จําคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ)


พฤติการณ์ ด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปคม. ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ หนึ่ง มีการ โพสต์โฆษณาเชิญชวนค้าประเวณีในพื้นที่จังหวัดระยอง จึงได้ให้สายลับอําพรางตัวติดต่อขอซื้อบริการทางเพศกับผู้ใช้ บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว ผ่านทางแอพพลิเคชันไลน์ โดยผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวได้ส่งภาพ หญิงสาวมาให้เลือก
จากการดูภาพของหญิงสาวที่ส่งมาให้นั้นเชื่อว่าน่าจะเป็นเยาวชนที่มีอายุต่ํากว่า18ปีจึงไดต้ิดต่อล่อซื้อบริการ ทางเพศ โดยมีการโอนเงินให้กับผู้ต้องหา ก่อนจะสามารถเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ที่ถูก ผู้ต้องหาล่อลวงมาค้าประเวณีได้ จํานวน 1 คน เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 66 พร้อมเชิญตัวมาสอบสวนตามกระบวนการ ขั้นตอนของกฎหมาย

จากการรวบรวมพยานหลักฐานสามารถดําเนินคดีกับ น.ส.ภาพิมลฯ ผู้ต้องหาที่ 1และ น.ส.ปาริฉัตร ฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ที่มีพฤติการณ์ เป็นนายหน้าค้าประเวณีเด็ก อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ซง่ึวันที่16ส.ค.66เจ้าหน้าที่ตํารวจกก.2บก.ปคม.ไดเ้ข้าจับกมุ น.ส.ปาริชาติผู้ต้องหาที่2ขณะอยู่ในบ้านพักในต. น้ําคอก อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ขณะที่น.ส.ภาพิมล ผู้ต้องหาที่ 1 หลบหนีไปกบดานที่บ้านเพื่อนที่ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ก่อนจะมีถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2566 จึงนําตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ดําเนินคดีตามกฎหมาย

ในชั้นการจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นนายหน้าติดต่อลูกค้า เพื่อค้าประเวณีเด็กจริง โดยค่า นายหน้าในการหาลูกค้าให้กับ เด็กผู้เสียหาย ครั้งละ 500 บาท ทํามานานแล้วกว่า 2 เดือน ซึ่งตนเคยโฆษณา ค้าประเวณีตนเองทางสื่อโซเชียลมาก่อน กระทั่งมาชักจูงน้องผู้เสียหายในคดีนี้มาทําการค้าประเวณีด้วย

จากการสืบสวนขยายผลพบว่า มีเด็กในสังกัดของผู้ต้องหาทั้งสอง ที่เป็นเยาวชน มีอายุต่ํากว่า 18 ปี อีกจํานวน 2 คน คือ ด.ญ.บี อายุ 14 ปี และ น.ส.ซี อายุ 16 ปี เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงติดตามตัวมาสอบถามเพิ่มเติม เยาวชน ทั้ง 2 คน ยืนยันว่าเคยถูกผู้ต้องหาทั้งสองล่อลวงให้มาค้าประเวณีจริง ผ่านนายหน้า ชื่อ น.ส.โดกี้ หรือ น.ส.ฐานิตาฯ

เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งขอศาลออกหมายจับน.ส.โดกี้ หรือ น.ส.ฐานิตาฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ได้ ในพื้นทจี่ังหวัดระยองเมื่อวันที่23ส.ค.66ซึ่งในชั้นจับกมุเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกระทําความผิดจริง
ไม่เพียงเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อดําเนินคดีกับ กลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อบริการทางเพศ กับ เด็กผู้เสียหายในคดีนี้ และได้ขอศาลออกหมายจับ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อบริการเด็ก ไว้ทั้งสิ้นจํานวน 13 ราย ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตํารวจเปิดปฏิบัติการแกะรอย ติดตาม จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาและ ดําเนินคดีไปได้แล้วทั้งสิ้น จํานวน 5 ราย คือ ผู้ต้องหาที่ 4-8 ข้างต้น
ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตํารวจมีความห่วงใยเด็กผู้เสียหายที่ตก เป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์เพราะนอกจากความเสียหายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับเด็กเหล่านี้แล้ว ยังมีความ เสียหายทางจิตใจที่จะฝังรากลึกและเป็นผลกระทบต่อการดําเนินชีวิตในอนาคต จึง ฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชนที่ อาจตกเป็นผู้เสียหาย ให้ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ให้สังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานว่ามีการใช้จ่ายเงิน ฟุ้งเฟ้อเกินตัว และหมั่นตรวจสอบการใช้สื่อออนไลน์ของเด็กว่ามีความผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่

พร้อมทั้ง ฝากเตือนผู้ที่คิดจะตั้งตัวเป็นเอเย่นต์, นายหน้า หรือโมเดลลิ่ง ค้าบริการทางเพศเด็ก เพียงเพราะ เห็นแก่รายได้ส่วนต่างจากการค้าประเวณีซึ่งการกระทําดังกล่าวเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ที่มีอัตราโทษสูง จําคุกกว่า 15 ปี ปรับสูงสุดถึง 1,500,000 บาท และยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานจัดให้มีการค้าประเวณี ระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ให้บริการ ที่มีอัตราโทษสูงสุดจําคุก 20 ปีปรับ 400,000 บาท หรือจําคุกตลอดชีวิต พร้อม กันนี้ความผิดฐานค้ามนุษย์ยังเป็นความผิดมูลฐานหนึ่งในกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่ง อาจถูกยึดทรัพย์ได้เช่นกัน
และฝากเตือนผู้ที่มีความชอบใช้บริการทางเพศเด็ก มีความผิดฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกิน สิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากําไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย มี อัตราโทษจําคุกสูงสุด 10 ปีปรับ 200,000 บาท
หากประชาชนมีเบาะแส หรือได้รับความเดือนร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่กองบังคับการปราบปรามการค้า มนุษย์โทร สายด่วน 1191 หรือเพจเฟสบุ๊ค กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์“เป็นมืออาชีพด้วยเทคโนโลยี ทันสมัย คืนคุณค่าความเป็นคน ประชาชนได้พึ่งพา”
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. โทรศัพท์ : 087-5529555