นครพนม ลำน้ำสาขาสายหลักเต็มความจุ ยังระบายสมทบน้ำโขงต่อเนื่อง ส่วนระดับน้ำโขงทรงตัว ประมาณ 7 เมตร ห่างจุดล้นตลิ่ง 5 เมตร คือที่ 12 เมตร เฝ้าระวังน้ำโขงหนุนรับมวลน้ำจากภาคเหนือ นาข้าวเกือบ 1 แสนไร่ ยังอ่วม คาดเสียหายหนัก หากฝนตกมาซ้ำอีก เร่งสำรวจความเสียหายทั้ง 12 อำเภอ วางแผนชดเชยเยียวยาช่วยเหลือชาวนา
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ถึงแม้ปริมาณฝนจะลดลง แต่ลำน้ำสาขาสายหลักในพื้นที่ ประกอบด้วย ลำน้ำก่ำ ลำน้ำบัง ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม รวมถึงลำห้วยสาขา และอ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่ ทั้ง 12 อำเภอ รวม 20 อ่าง พบว่ายังมีปริมาณน้ำสูง ประมาณ 80 – 100 เปอร์เซ็นต์ ของความจุ โดยทางชลประทานจังหวัดนครพนม ยังคงเร่งระบายลำน้ำสาขาสายหลัก ลงแม่น้ำโขงต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรนาข้าว เพราะยังมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ทำให้มีปริมาณน้ำมาเติมลำน้ำสาขา ส่วนระดับน้ำโขงถึงแม้จะลดลง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ ประมาณ 7 เมตร ห่างจากจุดล้นตลิ่งประมาณ 5 เมตร คือ ที่ 12 เมตร แต่ยังต้องรับปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาอีกจำนวนมาก จึงต้องเฝ้าระวังมวลน้ำจากทางภาคเหนือ รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนประเทศจีน ที่ส่งผลให้น้ำโขงเพิ่มระดับรวดเร็ว และกระทบลำน้ำสาขาเอ่อล้นพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ลุ่ม ในพื้นที่ 12 อำเภอ
ล่าสุดทางจังหวัดนครพนม ยังประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 12 อำเภอ เร่งสำรวจ ให้การช่วยเหลือวางแผนชดเชยเยียวยาพื้นที่นาข้าวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเสียหาย จากการสำรวจพบว่า ยังมีพื้นที่นาข้าว ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เกือบ 1 แสนไร่ หากยังมีฝนตกลงมาซ้ำอีก ในช่วง 2 สัปดาห์ คาดว่าจะได้รับความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 80,000 ไร่ หนักสุดพื้นที่ติดกับลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม เขต อ.ศรีสงคราม ส่วนการชดเชยเยียวยา สำหรับพื้นที่นาข้าวที่เสียหาย จะได้รับเงินชดเชยเยียวยา ไร่ละ 1,340 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ แต่จะต้องเป็นพื้นที่ขึ้นทะเบียนกับทางหน่วยงานเกษตร ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง กำเร่งสำรวจให้การช่วยเหลือเยียวยาเร่งด่วน