สุรินทร์ คุณยายวัย 70 ปี อยู่บ้านทอผ้าดีๆ มีจดหมายจากสำนักงานทนายความแจ้งให้ชำระหนี้ สหกรณ์การเกษตร เกือบล้าน ไม่สบายใจ เข้าพบเจ้าหน้าที่ สกต.บอกว่าเป็นเพียงจดหมายปลอม และเดินทางไปแจ้งความไว้แล้ว

 วันนี้ วันที่ 30 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากคุณยายเลียง โสมทองหลาง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 20 บ้านป่ายาวตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ว่าได้มีจดหมายจากสำนักงานบริษัทกฎหมายเฉลิมอรจำกัด เลขที่345 หมู่ที่ 9 ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลย์มังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2566 เรื่องขอให้ชำระหนี้และไถ่ถอนทรัพย์จำนอง โดยระบุผู้กู้ ชื่อนายโยทะกา  ผู้กู้นางเลียง  ผู้จำนองทรัพย์ เป็นประกัน นางวิภาวดี   ผู้ค้ำประกันและ นางกนกวรรณ เศกชัย ผู้ค้ำประกัน โดยระบุว่า ผู้กู้ ได้กู้เงินจากสหกรณ์การเกษตรศีขรภูมิจำกัด(สกต.)จำกัด นับตั้งแต่ผู้กู้ได้รับเงินกู้ได้รับไปจนถึงปัจจุบัน ท่านผู้กู้ผิดนัดมีภาระหนี้ค้างชำระต่อสหกรณ์ฯดังนี้ เงินต้น 564,000.00บาท ดอกเบี้ย 368,701.04 บาท เบี้ยปรับ 50,463.15 บาท รวมทั้งสิ้น 983,164.19 บาท ทำให้คุณยายตกใจและได้ปรึกษาหารือกับลูกสาว จึงได้ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรม พร้อมกับแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการตรวจสอบ


น.ส.สุวรรณี โสมทองหลางอายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวบอกว่า หลังจากที่ตนเองได้รับจดหมายและมาสอบถามแม่ดู ก็ตกใจเพราะเคยเป็นสมาชิกสหกรณ์และเคยกู้เงินจำนวน 2 แสนกว่าบาทและใช้จ่ายไปหมดหลายปีแล้ว และไม่ได้ทำการกู้อีกเลยและอยู่ดีๆก็มีหนังสือแจ้งหนี้มาทำให้ตนเองและแม่ถึงกับตกใจ จึงได้ตัดสินใจไปขอพบผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร(สกต.)จำกัดสาขาศีขรภูมิ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าหนังสือแจ้งหนี้ดังกล่าวเป็นหนังสือปลอมขึ้นมา อย่าไปตกใจ แต่ตนเองไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ไปพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้ไปนำเอกสารการกู้เงินและหลักฐานต่างๆนำมาให้ ซึ่งตนเองไม่สบายใจ จึงตัดสินใจไปปรึกษาพี่น้องภายในหมู่บ้านบอกว่าให้แจ้งนักข่าวในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบด้วย


หลังจากที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบก็พบคุณยายวัย 70 ปี กำลังทอผ้าอยู่ภายในบ้านและพบลูกหลานอยู่ด้วยกันเพียงไม่กี่คนและขอดูเอกสารการแจ้งให้ชำระหนี้ ซึ่งน.ส.สุวรรณี  ลูกสาว ยื่นมาให้ดูและก็ยังบอกอีกว่าทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรบอกว่าไม่ให้ไปแจ้งความ เพราะไปแจ้งก็ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งตนเองและแม่ไม่สบายใจ จึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและญาติพี่น้องโดยการให้แจ้งนักข่าวในพื้นที่เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สหกรณ์บอกว่าไม่ต้องแจ้ง เพราะเอกสารที่นัดชำระหนี้นั้นเป็นของปลอม ซึ่งตนเองบอกว่ามันไม่น่าจะใช่ และได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ และจะเข้าพบศูนย์ดำรงค์ธรรมแล้ว

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ สหกรณ์การเกษตรศีขรภูมิจำกัด(สกต.).รายหนึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยให้เหตุผลว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้นำเอกสารของลูกค้าทำการปลอมแปลง ทำการกู้และเบิกเงินและนำผู้ค้ำต่างๆมาให้ค้ำให้ โดยนำเอกสารที่ดินนำไปปลอมแปลงตัวเลขและเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ลาออกไปนานแล้ว และสมาชิกคนที่ร้องก็ไม่ได้เป็นสมาชิกแล้วเพราะทุกอย่างถือว่าไม่มีอะไร   ที่สมาชิกฯไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าเขาจะมายึดที่ดินที่นำไปค้ำเอาไว้ แต่สำหรับตนเองแล้วคงไม่คิดว่าจะมีอะไร ซึ่งชาวบ้านอาจจะตกใจไปเองเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว