ชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ หันมาเพาะปลูกข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 มากขึ้น ส่วนใหญ่ทำนาดำ เพราะดูแลง่าย มีภูมิต้านทานโรค ประหยัดปุ๋ย ได้ผลผลิตสูงกว่าทำนาหว่าน ด้านสมาชิกกลุ่มปุ๋ยสั่งตัดอำเภอยางตลาดฟุ้ง คาดฤดูกาลเก็บเกี่ยวปีนี้ ได้ผลผลิตและกำไรสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาข้าวจ้าวหอมมะลิดีดตัวสูงขึ้น ขณะที่ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่เผย รับซื้อข้าวเปลือกจ้าวมะลิที่ราคาตันละ 16,000 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาตันละ 2,000 บาท


วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพทำนา ของชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ทั้งในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานลำปาวและนอกเขตชลประทานลำปาว พบว่าฤดูกาลเพาะปลูกปี 2566/67 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำนา 2 ลักษณะคือ  หันมาทำนาโดยการปักดำแทนการทำนาหว่านมากขึ้น  และเปลี่ยนพันธุ์ข้าวจากข้าวเหนียว เป็นข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 กันมากขึ้น 


นายสุทิน เพ็งแดง ผู้ใหญ่บ้านโคก หมู่ 4 ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีพื้นที่ทำนา 7 ไร่ หลายปีที่ผ่านมาทำนาหว่าน โดยเพาะปลูกข้าวเหนียว เพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา แต่ประสบปัญหาผลผลิตต่ำ ใช้ปุ๋ยปริมาณมาก ต้นทุนทำนาสูง บางครั้งเกิดโรคระบาด โดยเฉพาะราคาขายข้าวเปลือกต่ำ ขณะที่ราคาข้าวเปลือกจ้าวสูงกว่าข้าวเปลือกเหนียว ก.ก.ละ 2-3 บาท ระยะหลัง จึงหันมาเพาะปลูกข้าวจ้าวแทนข้าวเหนียว โดยใช้พันธุ์หอมมะลิ 105  ปีที่แล้วทดลองปลูก 2 แบบ เพื่อเปรียบเทียบผลผลิต คือทำนาดำ 1 ไร่ ส่วนอีก 6 ไร่ทำนาหว่าน ผลปรากฏว่าทำนาดำได้ผลผลิตสูงกว่า ปีนี้จึงลงทุนทำนาดำทั้ง 7 ไร่ ลงทุนไปแล้วกว่า 35,000 บาท และคาดว่าได้ราคาสูง ก.ก.ละไม่ต่ำกว่า 15 บาท ซึ่งราคาสูงกว่าข้าวเหนียว 


ด้านนายวิชัย น้อยเสนา ประธานกลุ่มปุ๋ยสั่งตัด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า  จากราคาปุ๋ยเคมีตามท้องตลาดราคาสูง กระสอบละ 50 ก.ก. ซึ่งบางช่วงราคาสูงถึงกระสอบละ 1,500 บาท  ขณะที่ปัจจุบันประมาณ 900-1,000 บาท ตามสูตรปุ๋ย ทางกลุ่มปุ๋ยสั่งตัดซึ่งมีสมาชิก 40 คน พื้นที่ทำนากว่า 270 ไร่ จึงลดทุนทำนา โดยคิดสูตรปุ๋ยสั่งตัด ให้เหมาะสมกับสภาพดิน เพื่อลดทุนการใช้ปุ๋ยเคมี ที่สามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี และลดทุนลงกว่า 30%  ในขณะเดียวกันยังเพิ่มผลผลิตข้าวอีกด้วย เฉลี่ยไร่ละ 700-1,000 ก.ก.ทีเดียว ทั้งนี้ จากสถานการณ์ตลาดข้าว มีแนวโน้มราคาข้าว โดยเฉพาะข้าวจ้าวปรับตัวสูงขึ้น ในฤดูกาลเพาะปลูกข้าวปี 2566/67 จึงพบว่าสมาชิกปุ๋ยสั่งตัดเรา รวมทั้งชาวนาทั่วไป หันมาเพาะปลูกข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 กันมากขึ้น ซึ่งต่างก็ตั้งความหวังไว้ว่าขายผลผลิตข้าวเปลือกปีนี้จะได้ราคาดี มีกำไร และที่แน่ๆ ราคาข้าวเปลือกจ้าว สูงกว่าข้าวเปลือกเหนียว


ขณะที่นายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนราคารับซื้อข้าวเปลือกนั้น ในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2565/66 ที่ผ่านมา ข้าวเปลือกเหนียวสด ราคาตันละประมาณ 7,000 บาท  ข้าวเปลือกเหนียวแห้งตันละ 13,000 บาท ข้าวเปลือกจ้าวนาปรังหอมมะลิสดตันละ 8,000 บาท ข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิแห้งตันละ 14,000 บาท อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ราคาข้าวปัจจุบัน ที่มีผลมาจากกลไกตลาดหลายปัจจัย คาดว่าราคารับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกนาปี 2566/67 ข้าวเปลือกเหนียวแห้งตันละประมาณ 14,000 บาท และข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิตันละ 16,000 บาท สูงจากปีที่ผ่านมาตันละ 2,000 บาท ทั้งนี้ ราคารับซื้อทั้งข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิ ประเมินราคารับซื้อตามคุณภาพข้าว