เมื่อวันที่ 27 ส.ค.66 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ออกแถลงการณ์พรรคไทยภักดี ระบุข้อความว่า
แถลงการณ์พรรคไทยภักดี
เรื่อง ๑.ขอให้กองทัพบกและอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์เร่งรัดดำเนินคดีหมิ่นประมาทและคดีความผิด ม.๑๑๒ กับนายทักษิณ ชินวัตร
๒.ขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร อันจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑.จากคดีความที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตรทั้งหมด ๙ คดี ปรากฏเป็นคดีที่ ศาลยกฟ้องหรือ ป.ป.ช.ยกคำร้องแล้ว ๔ คดี และมีคดีที่ศาลที่คำพิพากษาแล้ว ๔ คดี รวมโทษจำคุกทั้งหมด ๑๒ ปี แต่มีบางคดีที่โทษจำคุกหมดอายุความ รวมทั้งบางคดีถือว่าจำคุกซ้อนกันและต่อเนื่อง จึงเหลือจำคุก ๘ ปี
ขณะนี้ยังมีคดีที่ยังคงค้างอยู่ ในศาลอีก ๑ คดี นั่นคือ คดีที่กองทัพบก ยื่นฟ้องนายทักษิณ หมิ่นประมาท กรณีเมื่อวันที่ ๑๙-๒๐ พ.ค.๒๕๕๘ ซึ่งได้มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ จากประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและการยึดอำนาจการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งกระทบถึง กองทัพบก
ซึ่ง คดีนี้กองทัพบก โจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลอาญา คดีดำเลขที่ ๑๘๒๔/๒๕๕๘ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พ.ค. ฐานความผิดคดีหมิ่นประมาท กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒, ๓๒๖ และ ๓๒๘
โดยคดีความผิดตามมาตรา ๓๒๖ และ ๓๒๘ นั้นศาลได้รับฟ้องแล้วในวันที่ ๑๘ ส.ค.๒๕๕๘ และ ศาลอาญาออกหมายจับนายทักษิณ เนื่องจากไม่มาศาลเมื่อวันที่ ๑๒ ต.ค.๒๕๕๘ และจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว หากได้ตัวมาดำเนินคดีแล้วจะขอรื้อคดีขึ้นมาใหม่
และยังมีคดีที่เป็นความผิดร้ายแรง เพราะ นายทักษิณ ได้ถูกออกหมายจับ โดยตำรวจปอท. หมิ่นประมาท ดูหมิ่นและแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท เลขที่ ๑๑๔/๕๙ หมายจับ มีอายุความ ๑๕ ปี วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘-๒๑ พฤษภาคม ๒๕๗๓
และมีข่าวว่า อัยการสูงสุดมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งนายทักษิณ ได้มอบหมายให้ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นของความเป็นธรรมต่อ อัยการสูงสุด โดยขอให้อัยการสูงสุด มีคำสั่งทบทวนความเห็นดังกล่าว เเละให้มีการสอบคำให้การพยานเพิ่มเติมอีก ๔ ปาก ขณะนี้รออัยการสูงสุดสั่งการลงมา ซึ่งอัยการสูงสุดจะสั่งให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีดังกล่าวเป็นผู้พิจารณา ก่อนส่งความเห็นมาให้ อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการต่อไป
ดังนั้นเมื่อนายทักษิณได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย และได้ถูกสั่งจำคุกไปแล้วจาก ๓ คดี รวมโทษจำคุก ๘ ปี จึงขอเรียนถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ยังคงค้างอยู่ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
กองทัพบก ที่เป็นโจทก์ฟ้องหมิ่นประมาทนายทักษิณจะเร่งรัดรื้อคดีที่ถูกจำหน่ายอยู่ขึ้นมาพิจารณาโดยเร็วหรือไม่ เมื่อจำเลยคือนายทักษิณได้กลับมาปรากฎตัวแล้ว
อัยการสูงสุดจะพิจารณาสั่งฟ้องนายทักษิณในคดี ๑๑๒ โดยเร็วหรือไม่หลังจากนายทักษิณได้ส่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและเรื่องยังค้างคาอยู่ที่อัยการสูงสุดตั้งแต่ปี ๒๕๕๘
คดีนี้เป็นคดีใหญ่ คดีสำคัญ เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของชาติ เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จึงขอให้กองทัพบกและอัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการให้ชัดเจนโดยเร็ว
๒.ขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร อันจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากนช.ทักษิณ ชินวัตร ต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอรัปชั่นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศมากถึง๔คดี
เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระ เป็นการทำลายหลักธรรมาภิบาลของประเทศอย่างย่อยยับ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ ซ้ำร้ายยังมีพฤติกรรมหลบหนีการลงโทษไปต่างประเทศ ไม่เคารพยอมรับคำพิพากษาของศาล พร้อมทั้งกล่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของประเทศตลอดมา
การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร นอกจากจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังจะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างย่อยยับ เป็นแบบอย่างที่เลวร้ายต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของประเทศ ที่สำคัญจะเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประชาชน ทำให้วาทกรรมที่ว่า"คุกมีไว้ขังคนจน"ปรากฏเป็นจริงขึ้นมา
ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมา พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร อย่างถึงที่สุด
ด้วยความนับถือ
พรรคไทยภักดี
๒๗สิงหาคม๒๕๖๖