วันที่ 27 ส.ค.66 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้มีประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 16/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากพบว่าร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 29 สิงหาคม-3 กันยายน 2566 นั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ และติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมอบหมายเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงให้สามารถเข้าไปแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทานให้มีสภาพใช้งาน บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ในเกณฑ์ควบคุมสอดคล้องกับสถานการณ์ และจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ

สำหรับ สถานการณ์น้ำปัจจุบัน ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การรวมทั้งสิ้น 15,702 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าปีที่ผ่านมา 5,241 ล้าน ลบ.ม. สืบเนื่องจากปริมาณฝนรวมทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 จนถึงปัจจุบัน ต่ำกว่าค่าปกติร้อยละ 19 ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ตระหนักถึงผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยที่ผ่านมาได้วางแผนเตรียมรับมือสถานการณ์ฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ บริหารจัดการน้ำอย่างประณีต เดินหน้ากักเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาเต็มศักยภาพ ควบคู่กับการจัดสรรน้ำสนับสนุนการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก และเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากภาวะขาดแคลนน้ำจึงขอประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกให้เหมาะสม รวมถึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนใช้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด