เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 ส.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มี 16 สส.โหวตสวนมติพรรค ซึ่งนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรค ระบุว่า อาจถึงขั้นไล่ออกจากพรรค โดนขณะนี้ได้มีการล่ารายชื่อเพื่อเตรียมเสนอต่อรักษาการหัวหน้าพรรคแล้ว ว่า ตนได้สั่งให้ชี้แจงในที่ประชุม สส.ในการประชุม สส.ครั้งหน้า และถ้ามีสมาชิกพรรคเข้าชื่อกันร้องให้ตรวจสอบดำเนินการตามข้อบังคับพรรค ซึ่งตนก็จะดำเนินการ

เมื่อถามว่า โทษจะเป็นอย่างไร เพราะนายสาธิต ระบุว่า อาจถึงขั้นขับออกจากพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการมาดำเนินการแล้ว ก็ให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ถึงแม้การโหวตเลือกนายกฯ จะเป็นเอกสิทธิ์ สส.ตามรัฐธรรมนูญ แต่ข้อบังคับพรรคยังมีอยู่ อันนั้นไม่ขอตอบล่วงหน้า แต่ถ้ามีสมาชิกยื่นมาก็จะดำเนินการ ในส่วนกรณีของนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ ที่ลงมติไม่เห็นชอบนั้น ได้ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรคว่า ขอใช้สิทธิ์ในการลงมติไม่เห็นชอบ ซึ่งที่ประชุมไม่มีใครขัดข้อง แต่ในกรณีของ 16 สส.นั้น หลังจากการโหวตไม่ได้มีการแจ้งเหตุผลกับตน จึงไม่ทราบเหตุผล และตนขอเรียนในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคว่า ในนามพรรค พรรคยังไม่เคยมอบใครไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่ตนยืนยันมาตลอด 

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า 16 สส. มีความจงใจเพื่อให้พรรคขับออก เพื่อย้ายไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนตอบแทนไม่ได้ ก็ต้องสอบถามกับเจ้าตัว เมื่อถามต่อว่า แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า การที่ 16 สส. โหวตให้เพราะต้องการไปร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องถามคนที่ไปโหวตแต่ตนได้แจ้งแล้วว่า เขาต้องไปชี้แจงต่อที่ประชุม หรือถ้ามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน เขาก็ต้องไปชี้แจงกับคณะกรรมการว่าเป็นอย่างไร

“แต่สิ่งหนึ่งที่ผมขอเรียนตรงนี้ ประชาธิปัตย์มีศักดิ์ศรี เราเคยเป็นทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน จะเป็นอะไรก็เป็นไม่มีปัญหาแต่เราไม่เคยไปเป็นพรรคอะไหล่ และผมคิดว่าเราต้องชัดเจนในเรื่องนี้” นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ความขัดแย้งในพรรคมากขึ้นหรือไม่ และจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งคือ พรรคจำเป็นต้องอยู่ อย่างน้อยตนคิดว่าความเป็นพรรคต้องสูงสุดนอกจากประชาชนที่เราต้องมีหน้าที่ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชน พรรคยังต้องอยู่ เพราะพรรคเป็นองค์กร เมื่อถามย้ำว่ายิ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์ฟื้นฟูยากหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องอนาคต ไม่เป็นไร ในสถานการณ์นี้เราต้องดำเนินการในสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับพรรค คิดว่าตนชัดเจนในจุดยืนนี้ 

เมื่อถามถึงกรณีพรรคก้าวไกลอาจไม่รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เพราะมีสมาชิกพรรคเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง จะส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านเองหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อันนั้นต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และต้องเป็นไปตามข้อบังคับของสภา ว่าผู้นำฝ่ายค้านจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร และหากตนจำไม่ผิดผู้นำฝ่ายค้านจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคที่มีเสียงข้างมากในฝ่ายค้าน ส่วนจะมาถึงพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ตนตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่ตรงนี้ต้องถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในซีกนี้