เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมรัฐสภาถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ผลการประชุม สส. ความเห็นส่วนใหญ่ของเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมาให้งดออกเสียง ส่วนที่บางคนที่โหวตไม่เห็นด้วยถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ และไม่ได้พูดคุยว่าจะมีคนโหวตไม่เห็นด้วยกี่คน บางคนขอเป็นเอกสิทธิ์ ที่ประชุมก็ไม่ขัดข้อง ส่วนตัวโหวตตามมติพรรคคือเสียงส่วนใหญ่งดออกเสียง
เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยถึงแนวทางการทำงานในสภาหลังจากนี้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน และตนในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคไม่เคยมอบหมายให้ใครไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคไหนเพราะฉะนั้น ยืนยันชัดเจนว่าเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น เราพร้อมที่จะทำหน้าที่ของเรา เมื่อเราไม่ได้เป็นรัฐบาล เราก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล
เมื่อถามว่า ในการทำงานฝ่ายค้านที่ต้องทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลจะมีการแบ่งงานกันอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่าตนตอบล่วงหน้าไม่ได้ เพียงแต่เราต้องทำหน้าที่ของเรา และพร้อมที่จะยืนหยัด ในสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน ไม่ว่าเราจะมีหน้าที่อะไร เราตระหนัก และทราบดีในการทำหน้าที่แทนประชาชน ไม่ต้องกังวล
เมื่อถามว่า ถ้าในพรรคประชาธิปัตย์โหวตสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย จะเป็นการขัดมติพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า มติพรรคคืองดออกเสียง ซึ่งไม่ต่างกับการไม่ให้ความเห็นชอบ และคิดว่าไม่น่าจะมีคนโหวตเห็นชอบ เมื่อวานก็ได้มีการพูดคุยกันเสร็จแล้ว
เมื่อถามว่า มองการกลับมา ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเคยพูดเรื่องนี้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าไม่มีใครห้าม ไม่ให้นายทักษิณกลับมา แต่เมื่อกลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นหลักสำคัญของบ้านเมือง เพราะประเทศเราปกครองด้วยระบบนิติรัฐ กฎหมายเป็นใหญ่ ทุกคนมีหน้าที่เคารพกฎหมายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ถ้ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์บ้านเมืองก็ไปยาก ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และเท่าเทียมกัน นี่คือหลักไม่มีข้อยกเว้น