เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2566 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ว่า ส.ส. มีมติจะออกเสียง ไม่เห็นชอบต่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลผสมข้ามขั้ว เพื่อแสดงจุดยืนตามเหตุผลต่อไปนี้

1. เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลผสมข้ามขั้วที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ได้รวมเอาพรรคสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมรัฐบาลด้วย เท่ากับขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ที่แสดงออกอย่างชัดเจนไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง ว่าต้องการพลิกขั้วรัฐบาล ยุติการสืบทอดอำนาจ

2. พรรค ก.ก. ยืนยันอีกครั้งว่า การโหวตไม่เห็นชอบให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีผสมข้ามขั้วนั้น เราไม่ได้พิจารณาบนพื้นฐานของคุณสมบัติของตัวแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แต่เป็นการตัดสินใจบนจุดยืนทางการเมืองและคำมั่นสัญญาที่พรรค ก.ก. ได้ให้ไว้กับประชาชนคือ “มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา” ซึ่งพรรค ก.ก. ไม่สามารถตระบัดสัตย์ต่อประชาชนได้

3. พรรค ก.ก. เห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้วที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่การลดเงื่อนไขความขัดแย้ง หรือเดินหน้าประเทศไทยต่อโดยมีวาระของประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่นี่เป็นการสยบยอมและต่อลมหายใจให้กับระบบการเมืองที่ไม่ยอมให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน

เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้เป็นเหมือนที่คิดไว้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเรียกว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่คาดคิด และประชาชนไม่อยากจะเห็น

เมื่อถามว่า การลงมติไม่เห็นชอบนั้น ในอนาคตจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การลงมติเช่นนี้ เราอยู่บนหลักการ และจุดยืนที่เราได้ให้ไว้กับประชาชน และเคารพผลของการเลือกตั้ง การทำงานในสภาไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใด เราเชื่อว่าหากเอาเหตุผล และวาระเป็นตัวตั้ง สิ่งใดที่พวกเราเคยเสนอ มีความสมเหตุสมผลกับประชาชน ก็คิดว่าจะสามารถร่วมงานกันได้ แม้ในอนาคตหากเราเป็นฝ่ายค้าน แล้วรัฐบาลเสนออะไร ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย หรือวาระ หากเราคิดว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน เราก็เห็นชอบด้วยอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะต้องไม่เห็นชอบไปด้วยกันทุกเรื่อง หรือเห็นชอบไปด้วยกันทุกเรื่อง ขึ้นอยู่กับเหตุและผล

เมื่อถามว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคลุงแล้ว จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยากขึ้นไปด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้น เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่สยบยอม และต่อลมหายใจกับระบบการเมืองที่ไม่ต้องการให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้รัฐธรรมนูญ จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ หรืออื่นๆ ก็มีความน่ากังวลว่าจะเกิดขึ้นได้ยาก

เมื่อถามว่า การโหวตไม่เห็นชอบในวันพรุ่งนี้ จะส่งผลกระทบต่อพรรคก้าวไกลที่พยายามจะผลักกฎหมายในสภาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนหวังว่าหากเห็นว่าร่างกฎหมายของเราสมเหตุสมผล และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนจริง ก็สามารถได้รับความร่วมมือได้

ส่วนจะให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราสนับสนุนแน่นอน หากรัฐบาลใหม่เสนอให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายปิยะบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาระบุว่าอยากให้พรรคก้าวไกลแถลงอย่างชัดเจนว่าเป็นฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการหวังเป็นรัฐบาล วันนี้ก็เป็นมติตามหลักการ ส่วนการประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านนั้น พรรคก้าวไกลพร้อมทำงานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานะใด ซึ่งการเป็นฝ่ายค้านก็จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่า ยังมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อาจจะยากแล้ว ต้องยอมรับ แต่ในทางการเมือง อะไรก็เกิดขึ้นได้ 

เมื่อถามว่า ยังอยากจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หรือปิดประตูไปแล้ว นายชัยธวัชกล่าวว่า เราพร้อมที่จะดำเนินงานตามที่ประชาชนส่วนใหญ่คาดหวัง

เมื่อถามว่า ในแถลงการณ์จัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ระบุว่าไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ถือเป็นการปิดประตูหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คำแถลงและแถลงการณ์ต่างๆ ตั้งแต่มีการฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นสิ่งที่ชัดเจนในเหตุผลข้อที่สาม ว่านี่ไม่ใช่การลดความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศเดินต่อ โดยมีประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่เป็นการสยบยอม และต่อลมหายใจของระบบการเมืองเดิม ที่ไม่อยากเห็นอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคก้าวไกลพร้อมร่วมทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่  นายชัยธวัช กล่าวว่า หากสุดท้ายพรรคก้าวไกลและพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นความจำเป็นทางการเมืองอยู่แล้ว เราอาจจะไม่เห็นด้วยกันในทุกเรื่อง เหมือนสมัยที่แล้ว 

เมื่อถามว่า ตำแหน่งรองประธานสภาและผู้นำฝ่ายค้าน จะต้องมีการทบทวนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาภายหลังการโปรดเก้านายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า หากพรรค พท. เป็นรัฐบาลและเสนอร่างกฏหมายที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคก้าวไกล จะยกมือให้ผ่านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน ตั้งแต่สมัยสภาที่แล้ว หากรัฐบาลเสนอมาและเราเห็นว่าเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์กับประชาชนทและสมเหตุสมผล เราก็สนับสนุน เราไม่ได้ค้านทุกเรื่อง

เมื่อถามถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เรียกร้องให้พรรคก้าวไกลยกมือเห็นชอบ พ.ร.บ. ปปช. ที่สามารถช่วยให้ผู้ชุมนุมสามารถฟ้องเอาผิดโดยตรงได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า หากข้อเสนอใดที่สามารถสนับสนุนคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงจากรัฐ เราเห็นด้วยอยู่แล้ว รัฐบาลใหม่ควรที่จะพิจารณาเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง

เมื่อถามว่า จุดยืนของพรรคร่วมรัฐบาล ประกาศว่าจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 นายชัยธวัช กล่าวว่า จุดยืนของเรา คือเราเห็นว่าต้องมีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และไม่ต้องกังวลว่าจะไปกระทบต่อการปกครอง แล้วรัฐธรรมนูญมีการจำกัดอยู่แล้วว่า ไม่สามารถแก้เพื่อให้กระทบรูปแบบของรัฐและระบบการปกครองได้ เรื่องนี้เราชัดเจน ว่าข้อเสนอการจัดทำรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ ไม่มีอะไรน่ากังวล

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลได้ว่าชื่อของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย จะโหวตผ่านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า “มันก็อาจจะไม่มีอะไรแน่นอน”

เมื่อถามอีกว่า มีการมองว่าหากพรรคก้าวไกลไม่โหวตให้ จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลติดหล่ม นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้กังวล ขณะเดียวกัน การจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นอยู่นี้ และต่อลมหายใจให้กับระบอบการเมืองที่ต่อต้านประชาชน จะไม่สามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประชาธิปไตยได้